5 กิจกรรมที่ห้ามพลาดบนเกาะเซบู
หากพูดถึงทะเลฟิลิปปินส์ หลายคนอาจนึกถึงทะเลน้ำใส หาดทรายขาว และบรรยากาศชิลๆ ริมชายหาด แต่ “เกาะเซบู” มีมากกว่านั้น เพราะที่นี่คือปลายทางที่รวมทั้งธรรมชาติที่สวยงาม ประสบการณ์ผจญภัย และวัฒนธรรมท้องถิ่นไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นสายดำน้ำ ดูสัตว์ทะเล สายลุย ผจญภัยในป่าเขาธรรมชาติ หรือสายเดินเล่นในเมืองชิลๆ ก็สามารถวางแพลนทริปให้เข้ากับสไตล์ของแต่ละคนได้ไม่ยาก พวกเรา Ticket2 เลยจะพาไปรู้จักกับ 5 กิจกรรมที่ห้ามพลาดบนเกาะเซบู ที่จะทำให้จะทำให้ทริปเซบูของคุณนั้นคุ้มค่าและเก็บครบทุกไฮไลต์ของเกาะแห่งนี้
การเดินทางจากไทยไปเซบู
เมืองเซบูนั้นมีสนามบินนานาชาติเป็นของตัวเอง ทำให้สามารถนั่งเครื่องบินไปลงได้อย่างสะดวกสบาย โดยการนั่งเครื่องบินจากไทยไปเซบูนั้น หลัก ๆ มีอยู่ 2 วิธี นั่นก็คือการบินตรงและการต่อเครื่อง โดยสามารถเช็คเที่ยวบินและราคาตั๋วได้ที่ Skyscanner ได้เลย

บินตรง
ปัจจุบัน สายการบินเดียวที่มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพไปลงที่เซบูคือ Cebu Pacific โดยสามารถออกเดินทางได้จากทั้งสุวรรณภูมิ (BKK) และดอนเมือง (DMK) ใช้เวลาประมาณ 4 - 4.5 ชม. เหมาะสำหรับคนที่อยากประหยัดเวลาและไม่อยากเสียเวลาต่อเครื่อง
ต่อเครื่อง
มีอยู่หลายสายการบินที่มีเที่ยวบินแบบต่อเครื่องให้บริการ โดยจุดต่อเครื่องที่นิยมที่สุดคือมะนิลา (MNL) ซึ่งอยู่ใกล้เซบูมากที่สุดและใช้เวลาเดินทางรวมน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม บางสายการบินอาจไปต่อเครื่องที่เมืองอื่นๆ เช่น กัวลาลัมเปอร์, สิงคโปร์ หรือฮ่องกง ขึ้นอยู่กับสายการบิน โดยสามารถเลือกเที่ยวบินที่เหมาะกับงบประมาณและตารางเวลาของตัวเองได้
เที่ยวชมเมือง Cebu City
แม้หลายคนจะนึกถึงเซบูในภาพของทะเลสีฟ้าสดใสและกิจกรรมดำน้ำ แต่ความจริงแล้ว Cebu City คือหัวใจของเกาะที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และชีวิตในเมืองที่มีเสน่ห์ การเดินเที่ยวชมเมืองจะทำให้ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของเซบู ตั้งแต่ร่องรอยจากยุคอาณานิคม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ไปจนถึงวิถีชีวิตผู้คนที่ผสมผสานความเก่าและใหม่ไว้อย่างลงตัว นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการทำความรู้จักเซบูให้ลึกกว่าการมาเที่ยวทะเลเพียงอย่างเดียว
Magellan's Cross

อนุสรณ์สถานที่ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเซบู สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีล้างบาปของชาวคริสต์คาทอลิกฟิลิปปินส์รุ่นแรก และเป็นที่ประดิษฐานของไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเชื่อกันว่ากัปตันเฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน นักเดินเรือผู้รับใช้ราชสำนักสเปน เป็นผู้ปักไว้เมื่อเดินทางมาถึงเกาะเซบู สถานที่แห่งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงจุดท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของทั้งการล่าอาณานิคมและการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในฟิลิปปินส์อีกด้วย
Temple of Leah

วิหารสไตล์กรีก-โรมันที่จำลองรูปแบบมาจากมหาวิหารแห่งพาร์เธนอน สร้างขึ้นโดยเทซลอฟ เอสคาโน เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรัก และการรำลึกถึงถึงภรรยาผู้ล่วงลับของเขา ภายในวิหารตกแต่งอย่างวิจิตร และมีการจัดแสดงงานศิลปะและรูปปั้นมากมาย รายล้อมไปด้วยป่าเขียวขจีและสวนดอกไม้ที่ถูกจัดไว้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นวิวหมู่เกาะเซบูจากมุมสูงได้อีกด้วย
Cebu Downtown

ย่านเก่าแก่ของเมืองเซบูที่ตั้งอยู่บนถนนสายที่เก่าแก่ที่สุดของฟิลิปปินส์ และมีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยอาณานิคมสเปน โดยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ย่านนี้ก็เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญมาโดยตลอด ปัจจุบันย่านนี้เต็มไปด้วยร้านค้ามากมายสำหรับสายช้อปปิ้ง และอาคารสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างสไตล์สเปนและศิลปะท้องถิ่นของเซบูได้อย่างกลมกลืน และยังเป็นที่ตั้งของโบราณสถานหลายแห่งอีกด้วย
Minor Basilica of the Holy Child

มหาวิหารโรมันคาทอลิกที่เก่าแก่ที่สุดในฟิลิปปินส์แห่งนี้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1565 และถือเป็นศูนย์รวมศรัทธาที่สำคัญของชาวคริสต์ในประเทศ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระกุมารเยซู (Santo Niño de Cebu) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นรูปปั้นที่เฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน นำมามอบเป็นของกำนัลแด่ราชินีฮัวนา (Queen Juana) แห่งเซบู เมื่อเขาเดินทางมาถึงเกาะแห่งนี้เป็นครั้งแรก ทำให้มหาวิหารแห่งนี้มีทั้งคุณค่าทางศาสนาและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ควบคู่กันไป
Fort San Pedro

ป้อมปราการโบราณที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1565 เพื่อใช้เป็นแนวป้องกันการโจมตีจากโจรสลัดและชนพื้นเมืองในยุคแรกๆ ของการตั้งถิ่นฐาน ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตสวนสาธารณะและจัตุรัส Plaza Independencia โดยเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้รวมถึงอาวุธโบราณต่างๆ
Argao

ชุมชนเก่าแก่ทางตอนใต้ของเกาะเซบูที่ยังคงบรรยากาศแบบยุคอาณานิคมสเปนเอาไว้ ทั้งบ้านเรือนและสถาปัตยกรรมที่เรียงรายอยู่ทั่วพื้นที่ ทำให้การเดินเล่นภายในชุมชนเต็มไปด้วยเสน่ห์และกลิ่นอายของอดีต ใครที่มีโอกาสไปเยือน ก็อย่าพลาดแวะชิม “ทอร์ตา” ขนมเค้กขึ้นชื่อของที่นี่กันด้วย
Mactan Shrine

ที่ตั้งของอนุสาวรีย์ลาปูลาปู หัวหน้าเผ่าวิชายันแห่งเกาะมัคตัน และอนุสรณ์สถานของเฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน ซึ่งซึ่งเคยเผชิญหน้ากันในการสู้รบช่วงยุคการล่าอาณานิคมของสเปน การต่อสู้ครั้งนั้นจบลงด้วยชัยชนะของลาปูลาปู และเชื่อกันว่าบริเวณนี้เองคือสถานที่ที่เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ดังกล่าวเกิดขึ้น
ดำน้ำดูฉลามวาฬที่ Oslob
หากพูดถึงทะเลที่สามารถการันตีการพบ “ฉลามวาฬ” ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้แทบ 100% ชื่อของเมือง Oslob ทางตอนใต้ของเกาะเซบูคือคำตอบแรกๆ ที่นักดำน้ำจะนึกถึง จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ มาจากพฤติกรรมของฉลามวาฬที่มักเข้ามากินตัวเคยในอวนของชาวประมงท้องถิ่น จากเดิมที่อาจต้องหาวิธีไล่ กลับกลายเป็นการปรับตัวมาให้อาหารแทน จนทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นแหล่งที่สามารถพบฉลามวาฬได้อย่างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม แม้ฉลามวาฬที่นี่จะดูคุ้นเคยกับมนุษย์ นักท่องเที่ยวทุกคนจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการห้ามสัมผัสตัวฉลามวาฬ การเว้นระยะห่างตามที่กำหนด ห้ามใช้แฟลชถ่ายภาพ รวมถึงข้อปฏิบัติอื่นๆ เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อเจ้าฉลาม

สำหรับกิจกรรมดำน้ำชมฉลามวาฬที่เซบู จะมีให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่
- ดำน้ำตื้น (Snorkeling) เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ค่าใช้จ่ายไม่สูง แม้จะว่ายน้ำไม่เป็นก็สามารถเข้าร่วมได้
- ดำน้ำลึก (Scuba Diving) มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าและควรมีใบอนุญาตดำน้ำ แต่จะได้สัมผัสประสบการณ์ใกล้ชิดกับฉลามวาฬมากยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่มองหาทัวร์ส่วนตัว ดำน้ำดูฉลามวาฬที่เซบูอย่างใกล้ชิด สามารถดูรายละเอียดได้ที่ ทัวร์ส่วนตัวเซบู ว่ายน้ำกับฉลามวาฬ
ดำน้ำดูฝูงปลาซาร์ดีน Sardine Run ที่ Moalboal
ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะเซบูคือที่ตั้งของเมืองชายทะเลชื่อ Moalboal ซึ่งโดดเด่นด้วยแหล่งดำน้ำระดับโลกที่ขึ้นชื่อเรื่องปรากฏการณ์ “Sardine Run” หรือการรวมตัวของฝูงปลาซาร์ดีนนับล้านตัวที่ว่ายน้ำพร้อมกันอย่างน่าตื่นตา ความพิเศษของที่นี่คือสามารถพบเห็นปรากฏการณ์นี้ได้ง่ายมาก แทบไม่ต้องนั่งเรือไกล เพียงเดินลงจากชายหาดไปไม่ถึง 20 เมตร ก็มีโอกาสได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติแล้ว

ภาพของฝูงปลาซาร์ดีนสีเงินจำนวนมหาศาลที่ว่ายน้ำไปพร้อมกัน สะท้อนแสงแดดที่ส่องผ่านผิวน้ำจนเกิดประกายระยิบระยับ เป็นภาพที่ทั้งสวยงามและน่าอัศจรรย์จนยากจะลืม ด้วยเหตุนี้ Moalboal จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักดำน้ำจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสายดำน้ำลึก Scuba Diving หรือดำน้ำตื้น Snorkeling ต่างก็สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์ใต้น้ำสุดพิเศษแห่งนี้ได้อย่างเต็มที่
ดำน้ำดูฉลามหางยาวที่เกาะ Malapascua
Malapascua เป็นเกาะเล็กๆ ทางตอนเหนือของเกาะเซบู และเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำไม่กี่แห่งของโลกที่สามารถชมฉลามหางยาว (Thresher Shark) สัตว์น้ำลึกหายากและใกล้สูญพันธุ์ได้อย่างใกล้ชิด กิจกรรมดำน้ำที่นี่มักเริ่มกันตั้งแต่เช้าตรู่ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ฉลามหางยาวจะขึ้นมาบริเวณน้ำตื้น เพื่อให้ปลาเล็กปลาน้อยช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและปรสิตบนลำตัว ในขณะแสงแดดยังอ่อน ไม่ร้อนจนเกินไปสำหรับเจ้าฉลาม

อย่างไรก็ตาม การดำน้ำชมฉลามหางยาวที่ Malapascua จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่รบกวนพฤติกรรมตามธรรมชาติของสัตว์ โดยห้ามว่ายน้ำไล่ตามเพื่อถ่ายภาพ ห้ามใช้แฟลชหรือไฟฉาย ห้ามเคาะถังออกซิเจนหรือสร้างเสียงดัง และต้องควบคุมการลอยตัวให้นิ่ง เฝ้าสังเกตอย่างสงบ หากปฏิบัติตามกฏเหล่านี้ ฉลามหางยาวจะว่ายวนเวียนเข้ามาให้ชมอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปหาเองเลย
Canyoneering ที่น้ำตกคาวาซัน
Canyoneering คือกิจกรรมผจญภัยที่เป็นการสำรวจเส้นทางหุบเขาและลำธาร หรือที่เรียกว่าแคนยอน (Canyon) โดยตลอดเส้นทางจะได้สัมผัสทั้งการไต่หน้าผา การโรยตัว ว่ายน้ำ และการกระโดดน้ำ จึงเป็นกิจกรรมที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสายลุยที่ชื่นชอบความตื่นเต้น ไฮไลต์สำคัญของเส้นทางนี้คือน้ำตกคาวาซัน (Kawasan Falls) ที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำสีฟ้าใสสดใสสวยงามท่ามกลางธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์และเส้นทางที่สวยงามตลอดทาง

แม้จะเป็นกิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์ แต่เส้นทางของคาวาซันก็ถือว่าไม่ยากจนเกินไป หลายช่วงเป็นการลอยตัวไปตามลำธาร มีทางปีนป่ายไม่มาก ความเหนื่อยหลักๆ จะอยู่ในช่วงเดินป่าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เส้นทางยังมี “จุดวัดใจ” ให้ได้ลุ้นกันพอประมาณ โดยเฉพาะจุดกระโดดน้ำความสูง 4 เมตร ซึ่งเป็นจุดบังคับ หากไม่กระโดดจะไม่สามารถไปต่อได้ ส่วนจุดอื่น ๆ จะมีความสูงตั้งแต่ 4 - 15 เมตร ซึ่งเป็นทางเลือก สามารถตัดสินใจกระโดดหรือไม่ก็ได้ รวมถึงบางช่วงยังเป็นการสไลด์ตัวลงมาตามสายน้ำ เพิ่มความสนุกและความตื่นเต้นให้กับกิจกรรมนี้อีกด้วย

