จังหวัดภูเก็ตหรือชื่อเก่า ‘ภูเก็จ’ เป็นเกาะที่เป็นที่รู้กันดีว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเป็นจังหวัดเดียวที่มีสภาพเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ทำให้ภูเก็ตมีภูมิอากาศแบบฝนเมืองร้อน ที่มีลมพัดผ่านตลอดเวลา โดยฤดูฝนจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนพฤศจิกายนและฤดูร้อนนั้นจะเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นฤดูที่เหมาะกับการเที่ยวภูเก็ต น้ำใส ทะเลสวย และ ไม่มีฝน
ภูเก็ตมีพื้นที่ทั้งหมด 543 ตารางกิโลเมตร เรียกว่าหากจะเที่ยวรอบเกาะนั้น จำเป็นต้องมีเวลามากกว่า 1 วันอย่างแน่นอนเพราะขนาดที่ใหญ่ของเกาะนั่นเอง
ภูเก็ตนั้นเป็นสถานที่ที่เป็นที่นิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะมีความสวยงามทั้งทางธรรมชาติและทางศิลปวัฒนธรรม เกาะภูเก็ตจึงเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับหลายๆคนที่มาเยือนในช่วงวันหยุดยาว โดยความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวในภูเก็ตมีทั้งทะเล ชายหาด ร้านอาหาร วัดวาอาราม รวมทั้งสวนน้ำต่างๆที่ทันสมัยและปลอดภัย ดังนั้นภูเก็ตจึงเป็นสถานที่ที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเที่ยวคนเดียว แก๊งค์เพื่อนหรือเที่ยวแบบสบายๆกันเป็นครอบครัวก็ไม่มีปัญหา
สำหรับผู้ที่อยากใช้เวลาว่างหรือใช้วันหยุดยาวไปเที่ยวกับครอบครัว บอกเลยว่าภูเก็ตเป็นอีกตัวเลือกที่ต้องมีในลิสต์ เพราะภูเก็ตนั้นไม่ได้มีแค่ความสวยงามของเกาะต่างๆเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีสถานที่อื่นๆให้เราไปเยือนไปเยี่ยมชมกันอีกด้วย การันตีได้เลยว่าถูกใจทั้งคุณพ่อคุณแม่และเหล่าลูกๆแน่นอน ถ้าพร้อมกันแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่ามีที่ไหนบ้างที่ควรพาครอบครัวไปเที่ยวกันในวันหยุด รับรองว่าเด็ดและสนุกไม่แพ้ที่อื่นแน่นอน
รวมสวนน้ำที่ต้องไม่พลาดทั่วภูเก็ต
มาภูเก็ตที่ก็ต้องมุงหน้าไปทะเลใช่ไหม แต่บางทีสภาพอากาศนั้นก็ยากที่จะเดาได้ ดังนั้นเราต้องมีแผนสำรองที่ได้อารมณ์เหมือนเที่ยวทะเลไม่แพ้กัน นั้นคือเที่ยวสวนน้ำนั้นเอง แต่ในภูเก็ตก็มีสวนน้ำให้เลือกหลายแห่ง เราได้คัดสรรเหลือ 3 แห่งที่แนะนำและสามารถเที่ยวได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหนของเกาะ ไปดูรายละเอียดกันเลย
สวนน้ำ | เหมาะสำหรับ | ราคาเริ่มต้น |
อันดามันดา (Andamanda) | ครอบครัว | ผู้ใหญ่ 1200 บาท เด็ก 800 บาท |
สแปลชจังเกิ้ล (Splash Jungle) | ครอบครัว | ผู้ใหญ่ 750 บาท เด็ก 500 บาท |
บลูทรี ภูเก็ต ฺ(Blue Tree Phuket) | วัยรุ่น | ผู้ใหญ่ 500 บาท เด็ก 250 บาท |
สวนน้ำเปิดใหม่ล่าสุดในประเทศและเป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ของภูเก็ต ด้วยเครื่องเล่นมาตรฐานระดับโลก และจุดถ่ายรูปเช็คอินกว่า 20 จุด ภายในตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบสไตล์ชิโนโปรตุกีสของภูเก็ตมาผสมผสานกับเอกลักษณ์ความเป็นไทย สื่อถึงความเป็นภูเก็ตและทะเลอันดามันได้อย่างลงตัว
ไฮไลท์
- เป็นสวนน้ำที่ตกแต่งมีธีมชัดเจน ประกอบกับเครื่องเล่นที่มีสีสันสดใสไม่แพ้สวนน้ำต่างประเทศ
- เครื่องเล่น Flow Rider ที่เล่นได้ฟรีไม่อั้น
ความพิเศษที่แตกต่างจากสวนน้ำแห่งอื่น
- ที่ตั้งสวนน้ำใกล้สำหรับคนที่เดินทางมาจากตัวเมืองภูเก็ต หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน อ่าวฉลอง แหลมพันวา
- เครื่องเล่นมีมากกว่า 19 ชนิด 37 สไลด์
สวนน้ำระดับเวิลด์คลาสแห่งแรกในภูเก็ตที่มีเครื่องเล่นสไลด์เดอร์แบบมาตรฐานหลากหลายชนิด เช่น เครื่องเล่นซุปเปอร์โบลวและบูมเมอแรงโกที่จะพาพวกเรานั้นรู้สึกเหมือนอะดรีนาลีนในร่างกายมันเพิ่มขึ้นพุ่งพรวดกันแน่นอน พักเหนื่อยกันด้วยการไปหาของกิน มีอาหารมากมายพร้อมให้พวกเราไปเลือกซื้อกัน เช่น เบอร์เกอร์ ไก่ทอด ป๊อบคอร์น น้ำอัดลมหรือน้ำปั่นก็มีนะ เรียกว่าครบวงจรสุดๆ เหนื่อยก็พัก แรงมาก็ไปสนุกกันต่อแบบยาวๆเลย บอกเลยว่าสนุกกันจนตัวเปื่อยหายร้อนแน่ๆ ด้วยทำเลที่ตั้งของสวนน้ำที่ห่างจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตเพียง 15 นาที ทำให้สามารถมองเห็นเครื่องบินผ่านหัวเราไปได้ในขณะที่เล่นเครื่องเล่นกันอยู่ด้วย เรียกว่าได้บรรยากาศแบบใหม่ไปด้วยในตัว
ไฮไลท์
- เครื่องเล่นสไลด์เดอร์ต่างๆที่เหมาะสำหรับครอบครัว สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย
ความพิเศษที่แตกต่างจากสวนน้ำแห่งอื่น
- เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก เพราะเป็นสวนน้ำที่พื้นที่ไม่ใหญ่มาก และนักท่องเที่ยวไม่ค่อยหนาแน่น
- ที่ตั้งสวนน้ำใกล้สำหรับคนที่เดินทางมาจากสนามบินภูเก็ต หาดไม้ขาว หาดในยาง
สวนน้ำสำหรับวัยรุ่นที่ชื่นชอบความท้าทาย เพราะมีเครื่องเล่นที่จะกระตุ้นอะดรีนาลีนให้พุ่งแบบสุดขีด ด้วยเครื่องเล่นสุดแปลกแหวกแนวอย่างสไลด์เดอร์ที่จะพาคุณพุ่งลอยไปบนกลางอากาศ ก่อนลงสู่สระน้ำทะเลเทียมขนาดใหญ่ หรือปีนหน้าผาจำลองที่ตั้งอยู่กลางน้ำ หรือเล่นซิปไลน์บินเหนือน้ำเอาให้เสียวกันไปข้างนึงเลย
ไฮไลท์
- สไลด์เดอร์ยักษ์ที่จะพาคุณลอยกลางอากาศก่อนดิ่งลงสู่ทะเลเทียมอันกว้างใหญ่
- ทะเลเทียมขนาดยักษ์ที่สายถ่ายรูปต้องไม่พลาด
ความพิเศษที่แตกต่างจากสวนน้ำแห่งอื่น
- เหมาะสำหรับวัยรุ่น มีกิจกรรมให้ทำหลากหลายที่ต้องอาศัยร่างกายที่แข็งแรง เช่น ปีนผา โหนสลิง
- ที่ตั้งสวนน้ำใกล้สำหรับคนที่เดินทางมาจากลากูน่า หาดกมลา หาดสุรินทร์ ถลาง
สถานที่อื่นๆในภูเก็ตที่ต้องไม่พลาด
- ย่านเมืองเก่าภูเก็ต (Phuket Old Town)
เริ่มกันที่ย่านเมืองเก่าภูเก็ตที่เป็นจุดที่ทุกคนต้องไปเมื่อมาถึงภูเก็ต เพราะที่นี่นั้นเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของเหล่าฮิปสเตอร์หรือคนที่ชื่นชมศิลปวัฒนธรรมชิโน-โปรตุกีส ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมท้องถิ่นที่สวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถเดินชมอาคารบ้านเรือนที่มีการผสมผสานของหลากหลายเชื้อชาติจนกลายมาเป็นแบบเฉพาะตัว เนื่องจากในอดีตนั้นภูเก็ต ถือว่าเป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์ของเหมืองดีบุกและบริเวณย่านเมืองเก่านี้จะเป็นศูนย์กลางของการรวมตัวของเหล่าผู้คนที่ขึ้นเกาะภูเก็ตเพื่อทำการค้าขายระหว่างกัน เส้นทางการเดินในย่านเมืองเก่านี่ไม่ได้ไกลและยาวมากนัก โดยที่เริ่มจากถนนถลาง ถนนเยาวราช ถนนดีบุก ถนนพังงาและถนนเทพกระษัตรี โดยระยะเวลาในการเดินถ่ายรูปนั้นเพียงแค่ 1 ชั่วโมงนิดๆก็เก็บจุดสวยๆได้ครบแล้ว เดินสบายใจสบายตาแน่นอน! ถ่ายรูปก็จะออกมาสวยงามเหมือนหลงเข้าไปอยู่ในอีกที่นึงแน่ๆ นอกจากจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่แล้วนั้น ยังมีมุมถ่ายรูปสำหรับคนที่ชื่นชอบภาพวาดแนว Street Art และที่เป็นจุดยอดฮิตคือการไปถ่ายรูปกับน้องมาร์ดีในชุดกระดองเต่าแดงที่ถนนถลางนั่นเอง โดยภาพวาด Street Art เหล่านี้เป็นการสร้างสรรค์ผลงานของ Alex Face หรือคุณพัชรพล แตงรื่น ผู้ที่เป็นที่รู้จักกันในแวดวงศิลปะในนามของ ‘คุณพ่อของน้องมาร์ดี’ หลังจากแวะชมแวะถ่ายรูปกันแล้ว หลายคนอาจจะเริ่มหมดพลังงาน ท้องเริ่มร้องประท้วงโครกคราก แต่ไม่ต้องกังวลใจไปเลยเพราะย่านเมืองเก่านั้นเต็มไปด้วยร้านของกินเยอะแยะทั้งไทยทั้งเทศ เรียกว่าหลังจากแวะชมแล้วก็ยังสามารถแวะกินได้ทันที ร้านอาหารขึ้นชื่อในย่านเมืองเก่าภูเก็ตนั้น ถ้าเป็นร้านของคาวก็คงหนีไม่พ้นร้าน ‘คุณจี๊ดยอดผัก’ ที่เรียกว่าเดินมาตรงถนนพังงาไม่ไกลก็จะเจอแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะหลงทางเลยเพราะถ้าเลยโรงแรม Memory Of On On มาแล้ว ก็จะเห็นร้านทันที เมนูแนะนำก็คือราดหน้ายอดผักที่แสนจะอร่อย หมูนุ่มๆกับน้ำราดหน้าที่มีรสชาติกลมกล่อม เรียกว่าราคาย่อมเยาว์แต่ความอร่อยของอาหารคือเต็มสิบไม่หักกันเลย หรือจะเป็นร้านอรุณโภชนาก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับโรตีเลิฟเวอร์ เพราะเมนูยอดฮิตอย่างโรตีหรือมะตะบะนั่นก็ถือว่าถ้ามาภูเก็ตแล้วไม่ได้ลองก็นับว่าเสียเที่ยวเช่นเดียวกัน ซึ่งความบางและกรอบของโรตีร้านนี้นั่นเวลากินกับชาร้อน รับรองว่าฟินแน่อน จบเมนูของคาวแล้วก็ต้องต่อด้วยเมนูของหวานเพื่อล้างปาก คาเฟ่ที่เป็นจุดแวะชิมของคนที่มาที่นี่ก็คือร้าน ‘หนัง (สือ) 2521’ ร้านกาแฟและขนมที่เปิดให้บริการมานาน เอกลักษณ์ของร้านนี้นอกจากกาแฟเมนูแนะนำอย่าง Bookhemian Iced Coffee หรือ น้ำเสาวรสโซดาที่มีราสเบอร์รี่อยู่ก้นแก้ว (Raspberry with Passion Fruit) แล้วนั้นยังมีขนมไว้กินกับเครื่องดื่มอีกด้วย บอกเลยว่าที่เด็ดอีกอย่างคือบรรยากาศของความวินเทจของร้านที่ตกแต่งและเต็มไปด้วยหนังสือหายากและนอกจากนี้ยังมีห้องที่เอาไว้เปิดหนังเก่าๆอีกด้วย ใครเล่าจะรู้...คุณพ่อคุณแม่ที่ท่านพาไปร้านนี้อาจจะเจอหนังสือที่ตามหามานานแต่ไม่เจอสักทีที่นี่ก็ได้
📌จุดปักหมุด
- ถ่ายรูปสวยๆที่ซอยรมณีย์ ถนนถลาง, ถนนพังงา, ถนนดีบุก, ถนนเยาวราชและถนนเทพกระษัตรี
- อิ่มอร่อยกับราดหน้ายอดผักที่ร้านคุณจี๊ด
- โรตีต้นตำรับของความอร่อยที่ร้านอรุณโภชนา
- กาแฟรสชาติถูกปากที่ร้านหนัง (สือ) 2521
🔺รู้ก่อนไป
ร้านคุณจี๊ดราดหน้ายอดผัก
- เวลาเปิดปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันพุธ ตั้งแต่เวลา 9.30 น. เป็นต้นไป
- ราคาเริ่มต้นที่ 45 บาท
- ดูแผนที่ร้าน คลิก
ร้านอรุณโภชนา
- เวลาเปิดปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 6.30 – 17.00 น.
- ราคาเริ่มต้นที่ 35 บาท
- ดูแผนที่ร้าน คลิก
ร้านหนัง (สือ) 2521
- เวลาเปิดปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันพุธ ตั้งแต่ 8.00 – 19.00 น.
- ราคาเริ่มต้นที่ 70 บาท
- ดูแผนที่ร้าน คลิก
- อควาเรีย ภูเก็ต (Phuket Aquaria)
หลังจากเอาใจเหล่าคุณพ่อคุณแม่มาแล้วกับย่านเมืองเก่า ก็ถึงเวลาของลูกๆบ้าง อย่าเพิ่งคิดว่าภูเก็ตนั้นมีดีเพียงแค่ทะเล เพราะภูเก็ตนั้นยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งตัวของภูเก็ตอควาเรียนั้นได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2019 เรียกว่าเป็นที่ฮือฮากันเลยทีเดียวเนื่องจากขนาดของอควาเรียมที่ใหญ่สุดๆและมีเหล่าสัตว์น้ำทั้งน้ำจืดน้ำเค็มมากกว่า 300 สายพันธุ์ จำนวนกว่า 51000 ตัวที่จะมาแหวกว่ายอวดโฉมให้เหล่าผู้ชมดูกันตลอดไม่มีเบื่อ โดยพื้นที่ของอควาเรียมจะแบ่งออกเป็น 9 โซนแสดง ได้แก่
- โซนป่าลึกลับ (Mystic Forest) ที่ได้รับแรงบันดาลใจในตกแต่งตัวโดมมาจากป่าหิมพานต์พร้อมเพลิดเพลินไปกับความน่ารักของเหล่าปลาน้ำจืดสายพันธุ์ต่างๆใต้น้ำ
- โซนทางเดินยอดไม้ (Canopy Walk) ขึ้นมาเดินชมฝูงปลาน้ำจืดขนาดใหญ่อย่างปลาช่อนยักษ์อะเมซอน ซึ่งจะเดินชมจากมุมบนตรงทางเดินจากตัวนอกอาคาร
- โซนอัญมณีแห่งป่า (Jewels of the jungles) พบกับความหลากหลายของเหล่าสัตว์เลื้อยคลานและแมลงต่างๆ ที่ยอดฮิตและต้องไปดูคือ แมงมุมทารันทูล่า (Talantulas) นั่นเอง
- โซนถ้ำแห่งสายธาร (River caves) ชมความน่ารักของน้องนากเล็กเล็บสั้นที่จะมากระชากหัวใจเหล่าผู้ไปเยือนไปโดยไม่รู้ตัว
- โซนสววรค์แห่งท้องทะเล (Coastal Haven) จะเป็นการจัดจองลองโซนทะเลใกล้ชายฝั่ง โดยจะมีฝูงของฉลามและรวมทั้งน้องเพนกวินที่กำลังรอการไปเยือนของพวกเรารออยู่
- โซนอ่าวปลากระเบน (Stingray Bay) เป็นโซนของการจำลองระบบนิเวศปะการัง จะพบกับพระเอกของเราอย่างปลากระเบนจมูกวัว (Cownose Rays) ที่มีลักษณะคล้ายกับปลากระเบนนกแต่จะต้องการคุณภาพน้ำที่ดีกว่าในการอยู่อาศัย ซึ่งจัดว่าสายพันธุ์ที่หาดูได้ยาก
- โซนเรือดำน้ำลาการ์โต (Largato) เป็นโซนที่จัดจำลองของเรือ USS Largato ที่เคยจมที่บริเวณอ่าวไทย ใกล้ๆกับจังหวัดสงขลาของเรานั่นเอง จะเห็นปลาที่จะคอยผลุบๆโผล่ๆตามซอกหลืบของเรือออกมาว่ายน้ำทักทาย
- โซนทะเลจีนใต้ (South China Sea) หรือโซน big tank ที่จัดได้ว่าเป็นจุดสำคัญของอควาเรียม ที่จะจัดแสดงเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยปลากว่า 100000 ตัวจาก 500 สายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ภายใต้มวลน้ำกว่า 3.5 ล้านลิตร เรียกว่าเดินเข้ามานี่เหมือนหลุดเข้าไปในโลกใต้มหาสมุทรกันเลยทีเดียว พระเอกอีกจุดนึงของเรานั่นคือ ฉลามเสือดาว (Zebra Shark) ที่มีอัตราการพบเจอค่อนข้างน้อย เนื่องจากจำนวนประชากรฉลามสายพันธุ์นี้น้อยนั่นเอง
- โซนสถานีวิจัยโลกใต้น้ำ (Station Aqurius) เป็นโซนที่จัดแสดงเหล่าแมงกะพรุนนานาชนิด รวมทั้งมีการให้ดูพัฒนาการของแมงกระพรุนตั้งแต่วัยแรกเกิดถึงตอนโตเลยนะ
หลังจากเต็มอิ่มไปกับทั้ง 9 โซนของอควาเรียแล้วก็จะเดินออกมาเจอพิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ (Trick Eye Museum) ที่เป็นพิพิธภัณฑ์ AR (โลกเสมือนจริง) ที่แรกของโลก! ก่อนเข้านั้นเพียงแค่กดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น หลังจากนั้นก็สามารถไปสนุกกับการถ่ายรูปตามจุดต่างๆได้แล้ว รับรองว่าเด็กๆมีความสุขไปกับการเดินเที่ยวในโลกใต้มหาสมุทรที่เต็มไปด้วยสัตว์นานาสายพันธุ์และเต็มอิ่มไปกับการถ่ายรูปทั้งที่อควาเรียและพิพิธภัณฑ์ทริกอายส์อย่างแน่นอน เป็นอีกที่หนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกๆไปอีกที่หนึ่งเลย ไม่ควรพลาด!
📌จุดปักหมุด
- แมงมุมทารันทูล่า
- เพนกวิน
- ฉลามเสือดาว
- ปลากระเบนจมูกวัว
- ถ่ายรูปสวยๆกับภาพเคลื่อนไหวที่พิพิธภัณฑ์ Trick Eyes
🔺รู้ก่อนไป
เวลาเปิดปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 11:00 – 19:00 น.
ไหนใครยังเห็นโลมาไม่หนำใจบ้างยกมือ!!! ถ้าอย่างนั้นโลมาโชว์ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกๆของท่านไปดูได้ เพียงแค่ 30 นาทีจากท่าเรือฉลอง เตรียมตัวกันพร้อมแล้วก็ไปสนุกกับการแสดงของน้องโลมาและน้องแมวน้ำแสนรู้กันเลย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงกระโดดสูง ว่ายน้ำลอดห่วง วาดภาพหรือกระโดดข้ามตัวครูผู้ฝึก เรียกว่าใครมาภูเก็ตแล้วยังไม่หนำใจกับความน่ารักของน้องโลมา มาที่นี่รับรองเลยว่าเต็มอิ่มกลับบ้านแน่นอน
📌จุดปักหมุด
- ถ่ายรูปกับโลมา
- ถ่ายรูปกับแมวน้ำ
- ว่ายน้ำกับโลมา
🔺รู้ก่อนไป
เวลาเปิดปิด : เปิดให้บริการทุกวัน มี 2 รอบการแสดงคือ 11.00 น. และ 14.00 น.
4. สักการะพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี (พระใหญ่)
แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่บูชานับถือขางชาวภูเก็ตกันหน่อย ใครที่มาภูเก็ตแล้วไม่แวะมาที่นี่บอกเลยว่าอาจจะพลาดอีก 1 สถานที่ที่นับว่าเป็นอีกจุดสักการะที่ชาวพุทธมักจะแวะเวียนกันมาและยังเป็นอีกจุดชมวิวแบบพาโนรามาที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันอีกด้วย พระใหญ่ของคนภูเก็ตนั้นมีชื่อเต็มว่า ‘พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี’ แต่คนมักเรียกกันว่าพระใหญ่ ตัวองค์พระนั้นได้สร้างด้วยหินอ่อนขาวจำนวน 135 ตันในการก่อสร้าง โดยหินอ่อนนี้ได้นำมาจากประเทศพม่า นอกจากจะสักการะองค์พระแล้วนั้น เรายังสามารถเดินชมบรรยากาศจากบนเขานาคเกิด ที่หากมองตรงไปนั้นก็จะเห็นอ่าวฉลองทั้งหมด เรียกว่าสามารถถ่ายรูปแบบพาโนรามาได้เลย มาที่นี่ได้ทั้งบุญได้ทั้งรูปสวยๆกลับไปแน่นอน แอบกระซิบว่ามีจุดให้ขอพรด้วยนะว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์มากเลย นั่นคือหากเดินเข้ามาแล้ว ทางซ้ายและขวามือก่อนถึงบันไดทางขึ้นไปองค์พระใหญ่ จะมีฆ้องใหญ่อยู่ ว่ากันว่าหากใครขอพรตอนที่กำลังใช้มือลูบฆ้อง แล้วฆ้องเกิดเสียงก้องกังวาน พรที่ขอไปนั้นจะได้สมดั่งตั้งใจ ว่าแล้วก็ไม่เสียหายเลยใช่มั้ยล่ะถ้าจะลอง
📌กิจกรรมปักหมุด
- สักการะพระใหญ่
- ชมวิวพาโนรามา
🔺รู้ก่อนไป
การแต่งกาย : ควรแต่งกายอย่างสุภาพ ควรหลักเลี่ยงการใส่เสื้อแขนกุดและกางเกงขาสั้น
👉🏻บริเวณทางเข้าจะมีการแจกผ้าถุงและผ้าคลุมไหล่ กรณีแต่งกายไม่เหมาะสม 👈🏻
เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน เวลา 07.30 – 17.30 น.
5. แหลมพรหมเทพ (Promthep Cape)
หลังจากทำกิจกรรมทั้งดูสัตว์ ไหว้พระกันถ้วนหน้าแล้วก็ไปชิลๆกับบรรยากาศลมพัดเบาๆพร้อมเสียงคลื่นกระทบฝั่งกันดีกว่า กินลมชมวิวกันที่แหลมพรหมเทพโดยมีฉากหลังเป็นพระอาทิตย์ดวงใหญ่สีส้มอยู่เบื้องหลัง แหลมพรหมเทพนั้นห่างจากท่าเรือฉลองไปประมาณ 20-30 นาที แหลมพรหมเทพนั้นมีลักษณะเป็นแหลมโค้งที่ค่อยๆไล่ระดับลงไปสู่ทะเล เป็นแหลมที่อยู่ทางใต้สุดของภูเก็ตและเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ทะเลที่จัดว่าสวยเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้านั้น ท้องทะเลเบื้องหน้าจะเป็นสีส้มไล่เฉดสีกันลงไป เรียกว่าสมกับชื่อคำขวัญที่ว่า ‘ไข่มุดอันดามัน’ จริงๆ การเดินทางไปนั้นสามารถขับรถไปจอดในที่จอดรถได้เลยเรียกว่าสะดวกสบายมากๆ เพียงแค่พกกล้องถ่ายรูปไปเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
📌จุดปักหมุด
- ถ่ายรูปตอนพระอาทิตย์ตก
- แวะเข้าชมประภาคารกาญจนาภิเษก
🔺รู้ก่อนไป
เวลาเปิดปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตลอดเวลา
6. บ้านตีลังกา
คุณพ่อคุณแม่หรือลูกๆใครเป็นสายถ่ายรูปลงโซเชียล บอกเลยว่าบ้านตีลังกานั้นก็เป็นอีกจุดเช็คอินนึงที่ต้องไม่พลาด! สนุกไปกับการถ่ายรูปในสถานที่ที่สร้างบ้านเป็นแนวกลับหัวทั้งหลัง! สิ่งของทุกอย่างในบ้านตีลังกานั้นเมื่อถ่ายรูปออกมาจะกลับหัวทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นมุมห้องน้ำ มุมห้องครัว มุมห้องทำงานหรือแม้กระทั่งโรงจอดรถยนต์เองก็เป็นแนวกลับหัวเช่นกัน ต่อไปมาหาทางออกกับสวนวงกตขนาดย่อมที่มีเนื้อที่ประมาณ 1000 ตารางเมตร ที่ออกแบบโดยนักออกแบบชาวอังกฤษ แต่ขอบอกเลยว่ากว่าจะหาทางออกจากสวนวงกตนี้ได้ก็ใช้เวลาใช่เล่นเลยนะ บอกเลยว่ามาภูเก็ตทั้งทีต้องมาสัมผัสสักครั้ง!
7. หาดไม้ขาว
จุดถ่ายรูปยอดนิยมที่เป็นจุดแวะของหลายๆคนอีกจุดหนึ่ง นั่นก็คือ หาดไม้ขาว
หาดทรายสีขาวตัดกับสีครามของน้ำทะเล ฉากหลังเป็นเครื่องบินที่กำลังแลนดิ้ง เรียกว่าหากไม่ใช่หาดไม้ขาวแล้วก็คงไม่มีที่อื่นอีกแล้วในประเทศไทยที่จะหาแบบนี้ได้ เนื่องจากระยะทางจากหาดไม้ขาวไปสนามบินภูเก็ต ห่างกันแค่ 14 กิโลเมตร (20นาที) ทำให้เวลาเครื่องบินทำการบินขึ้นหรือร่อนลงจะสามารถมองเห็นได้ในระยะใกล้ชิดจากตัวหาดไม้ขาว ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปของเหล่าผู้มาเยือน โดยจะมีเครื่งอบินลำใหญ่เป็นฉากข้างหลังนั่นเอง แนะนำว่าหากจะมาถ่ายรูปกับเครื่องบินที่นี่ต้องเช็คเวลาบินของเครื่องบินให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจจะมาแล้วไม่เจอเครื่องบินก็ได้นะ นอกจากนี้หาดไม้ขาวยังเป็นอีกสถานที่วางไข่ของเต่ามะเฟืองในฤดูวางไข่อีกด้วย ทำให้หาดไม้ขาวนั้นเป็นสถานที่ที่พวกเราต้องช่วยกันอนุรักษ์เพื่อที่จะให้เป็นที่วางไข่ของเต่าทะเลกันต่อไปอีกนานๆ
📌กิจกรรมปักหมุด
- ถ่ายรูปกับเครื่องบิน
- ถ่ายรูปกับหาดทรายสีขาว
🔺รู้ก่อนไป
เปิดบริการทุกวัน มีร้านขายของข้างทางและรถซาเล้งรับ-ส่งจากที่จอดรถไปจุดถ่ายรูป 20 บาท/คน
📍ดูแผนที่ คลิก
8. เล่นโหนสลิงโรลเลอร์ซิปไลน์ ณ Hanuman World
มาแวะเพิ่มความหวาดเสียวกันต่อที่ Hanuman World สถานที่เที่ยวแนวแอดเวนเจอร์อันโด่งดังใจกลางเมืองภูเก็ต Hanuman World ถือว่าเป็นอีก 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของคนที่ชอบความสูงและความโลดโผน บอกเลยว่าที่นี่นั้นตอบโจทย์ความต้องการได้แน่นอนด้วยจำนวนฐานกิจกรรมมากสุดถึง 30 ฐานกิจกรรมด้วยระบบความปลอดภัยที่ได้รับการรับรองจากต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีสกายวอล์ค (Skywalk) ให้ลูกค้าสามารถเดินไปถ่ายรูปกับป่าอันแสนกว้างใหญ่ที่กำลังโอบล้อมพวกเราอยู่นั่นเอง มาที่นี่ทั้งนี้ย่อมพลาดไม่ได้ที่จะพูดถึงตัวโรลเลอร์ซิปไลน์ที่มีความยาวเกือบ 1 กิโลเมตรที่มีความคดเคี้ยวตลอดการโหนสลิง บอกเลยว่า 3 นาทีที่เล่นนั้นจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นแน่นอน พร้อมแล้วก็ไปเหินเวหากันเลย!
กิจกรรมปักหมุด
- เล่นโรลเลอร์ซิปไลน์ที่มีความยาวเกือบ 1 กิโลเมตร
- ถ่ายรูปสวยๆที่สกายวอล์ค
รู้ก่อนไป
เวลาเปิดปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น.
ควรแจ่งกายสะดวกสบายต่อการเดิน เนื่องจากอาจจะต้องมีการเดินไปยังฐานกิจกรรมต่างๆ