รีวิว โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ ท่องดินแดนมหัศจรรย์ของดิสนีย์ในญี่ปุ่น

 

โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ นับเป็นสวนสนุกเครือดิสนีย์ยอดฮิตในหมู่คนไทย ด้วยความที่อยู่ใกล้ประเทศไทยมากกว่าปาร์คดั้งเดิมที่อเมริกา บวกกับที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศซึ่งคนไทยจำนวนมากใฝ่ฝันที่จะไปเยือน หรือหลายคนที่ไปมาแล้วก็ติดใจจนต้องกลับไปซ้ำอีกเรื่อย ๆ  อาจเรียกได้ว่าปาร์คนี้ตั้งอยู่ในทำเลทองสำหรับคนไทย และทำออกมาได้ดีแบบไม่ผิดหวัง  โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ จึงกลายเป็นสวนสนุกในดวงใจชาวไทยหลาย ๆ คนไปโดยปริยาย

บล็อกนี้จะเป็นรีวิวการไปเที่ยว โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ ครั้งล่าสุดของเรา โดยในส่วนของเครื่องเล่นเราจะรีวิวแค่เครื่องเล่นที่เราได้ไปเล่นมาเท่านั้นนะคะ  ซึ่งขอบอกไว้ก่อนว่าตอนนั้นเราไม่ได้ซีเรียสมากว่าจะต้องเก็บให้ครบทุกเครื่อง แต่จะเลือกแค่อันที่เราอยากเล่นเป็นหลัก แล้ววันที่เราไปก็ดันฝนตกซะด้วย จึงทำให้มีช่วงที่ต้องหลบฝนอยู่ประมาณหนึ่ง และทำให้ได้เล่นเครื่องเล่นจำกัดกว่าเดิมลงไปอีก  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ได้เก็บเหล่าเครื่องเล่นตัวตึงของที่นี่มาจนเกือบหมดเลย จะมีอะไรบ้างลองไปดูกันเลยค่า

 

รีวิว โตเกียว ดิสนีย์แลนด์

1. สิ่งที่ควรรู้ก่อนไป
2. รีวิวโซนและเครื่องเล่นต่าง ๆ
         1.1 World Bazaar
         1.2 Fantasyland
         1.3 Toontown
         1.4 Adventureland
         1.5 Westernland
         1.6 Critter Country
         1.7 Tomorrowland  
3. รีวิวอาหาร
4. สิ่งที่ต้องทำเมื่อไป โตเกียว ดิสนีย์แลนด์    
5. แพ็กเกจทัวร์

       

 

สิ่งที่ควรรู้ก่อนไป โตเกียว ดิสนีย์แลนด์

โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ เหมาะกับใคร?

เราคิดว่าที่นี่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยที่ไม่ได้ชอบความหวาดเสียวแบบสุดขั้วค่ะ ที่นี่จะมีเครื่องเล่นพวก dark rides (นั่งรถเข้าไปชมฉากต่าง ๆ) ที่เด็กเล็ก ๆ น่าจะเอ็นจอยอยู่เยอะ ส่วนรถไฟเหาะก็ถือว่าไม่น่ากลัวเกินไป เห็นมีเด็กน้อยต่อแถวเล่นรถไฟเหาะกันอยู่อยู่พอสมควรเลยน้า แต่ก็เป็นระดับความหวาดเสียวในที่ผู้ใหญ่ก็สนุกได้เช่นกัน

 

บัตรเข้าสวนสนุก

เราจะต้องซื้อบัตรเข้าล่วงหน้าก่อนวันไปอย่างน้อย 1 วันนะคะเพราะในตอนนี้ทางปาร์คไม่เปิดให้ซื้อหน้างาน  เขาจะเริ่มเปิดให้จองล่วงหน้า 4 เดือนก่อนถึงวันที่เราตั้งใจจะไป และเราสามารถจองได้ถึง 20:59 น.(เวลาญี่ปุ่น) ในคืนก่อนวันที่เราจะไป  

ส่วนตัวเราจองล่วงหน้าเกือบประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ค่ะ เราคิดว่าบัตรไม่ได้หมดเร็วขนาดนั้น จองใกล้ ๆ ก็ยังทัน ยกเว้นในช่วงวันหยุดพิเศษต่าง ๆ ของญี่ปุ่นนะคะ อันนี้ต้องลองเช็คดูดี ๆ น้า

 

 

ควรไปถึงตอนกี่โมง?

ประตูปาร์คจะเปิดตอน 9 โมง หลาย ๆ คนบอกกันว่าควรไปต่อคิวรอก่อนปาร์คเปิดซัก 30 นาที - 1 ชม. หรือบางคนก็ไปแต่เช้าตรู่เลยตั้งแต่ประมาณ 7:00 - 7:30 น. เพื่อที่พอปาร์คเปิดแล้วจะได้รีบเข้าไปเลย 

ส่วนตัวเราไปหลังปาร์คเปิดแล้ว ไม่ต้องต่อแถวก่อนเข้าเลย แต่ก็จะได้เข้าตอนที่คนอื่นที่มาตั้งแต่ก่อนเปิดเขาเข้าไปต่อคิวเครื่องเล่นกันหมดแล้ว ถ้าใครชิว ๆ แบบเรา ไปประมาณ 9:30 น. ก็โอเคนะคะ อาจจะไม่ใช่เวลาที่คุ้มที่สุด แต่ก็ยังสามารถเก็บเครื่องเล่นที่อยากเล่นได้ครบ

 

บัตร FastPass

ตอนนี้ทาง โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ ได้เปลี่ยนบัตร FastPass เป็นบัตร Priority Pass ซึ่งการใช้งานนั้นแทบจะเหมือนเดิมทุกอย่าง บัตร Priority Pass เป็นเหมือนบัตรคิวฟรีที่ช่วยร่นระยะเวลาในการต่อแถวเครื่องเล่น โดยเราจะเข้าไปกดเอาบัตรคิวบนแอพ ดิสนีย์ รีสอร์ท ของญี่ปุ่น แล้วไปที่เครื่องเล่นตามเวลาที่กำหนดบนบัตร โดยเราจะสามารถกดได้ 1 ใบในทุก ๆ 2 ชม. และ 1 ใบจะใช้ได้กับ 1 เครื่องเล่น(1 ครั้ง) แต่ทั้งนี้บัตร Priority Pass จะไม่สามารถใช้กับเครื่องเล่นยอดนิยมบางเครื่องได้นะคะ

บัตรลัดคิวอีกประเภทหนึ่งของ โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ คือ Disney Premier Access ซึ่งอันนี้จะเป็นแบบเสียเงินนะคะ ราคาประมาณ 350 - 600 บาทต่อ 1 คน/เครื่องเล่น  เมื่อเราซื้อบัตรนี้และนำไปสแกนที่หน้าแถวเครื่องเล่น เราจะได้เดินเข้าไปในแถวพิเศษทันที ซึ่งจะสั้นกว่าแถวปกติมาก ๆ อาจลดเวลาต่อคิวจาก 2 ชม. เหลือ 15 - 30 นาทีได้เลยค่ะ

 

 

 

รีวิวโซนและเครื่องเล่นต่าง ๆ

 

มาเริ่มต้นด้วยตารางสรุปคะแนนเครื่องเล่นต่าง ๆ ให้เห็นภาพรวมกันก่อนดีกว่าค่ะ

 

 

 

ต่อมาก็ไปแนะนำแต่ละโซนในปาร์คกันเลย!

 

โซนที่ 1: World Bazaar 

 



โซนนี้จะเป็นโซนแรกที่เราจะเดินเข้ามาเจอหลังจากเข้าปาร์คมาเลย จะเป็นโซนที่ตั้งของกิ๊ฟช็อปและร้านอาหารต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีร้านตู้เกมหยอดเหรียญอย่าง Penny Arcade ที่สร้างขึ้นมาในธีมร้านเกมในอเมริกายุคศตวรรษที่ 20 สิ่งที่เตะตาเราของที่นี่จะมีตู้ดูดวงหยอดเหรียญที่หยอดไปแล้วเราจะได้ใบคำทำนายกลับมา ส่วนที่เราไปเล่นมาจะเป็นตู้คีบตุ๊กตาจิ๋วที่เล่นไปแค่ครั้งเดียวก็ได้ตุ๊กตามาเลยค่ะ รู้สึกแฮปปี้มากเพราะตู้ไม่หลอกเอาเงิน

 

 

โซนที่ 2: Fantasyland

ดินแดนแห่งนิทานและเทพนิยาย สำหรับเรา เรานับโซนนี้เป็นดินแดนหัวใจหลักแห่ง โตเกียว ดิสนีย์แลนด์เลย เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของปราสาทเจ้าหญิงซินเดอเรลล่า แลนมาร์คของสวนสนุกแห่งนี้  รวมทั้งยังเป็นโซนที่ตั้งของเครื่องเล่นซึ่งสร้างมาจากภาพยนตร์เจ้าหญิงและนิทานต่าง ๆ เช่น เรื่อง Snow White and the Seven Dwarfs หรือเรื่อง Beauty and the Beast

เครื่องเล่นที่เราได้ไปเล่นมาในโซนนี้ ได้แก่

 

Enchanted Tale of Beauty and the Beast 

 

 

เป็นเครื่องเล่นที่สร้างมาจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Beauty and the Beast ซึ่งขอย้ำเลยว่าใครที่มาเที่ยว โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะเป็นเครื่องเล่นเปิดใหม่ล่าสุด และมีแค่ที่นี่เพียงที่เดียวเท่านั้น

โดยเราจะได้สัมผัสบรรยากาศของนิทานเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนเริ่มเดินเข้าไปต่อแถวข้ามสะพานเข้าสู่ปราสาทเจ้าชายอสูรกันเลย พอเราเดินกันเข้าไปถึงโถงของปราสาทเราก็จะได้ฟังเรื่องราวความเป็นมาว่าเจ้าชายรูปงามถูกสาปให้เป็นอสูรได้อย่างไร และจะได้พบเจอกับตัวละครเบลและเจ้าชายอสูรเป็นครั้งแรกหลังการเล่าเรื่องจบลงด้วย 

 

 

หลังจากที่เราฟังนิทานที่โถงปราสาทเสร็จแล้ว เราก็จะต้องเคลื่อนย้ายเข้าสู้อีกส่วนหนึ่งของปราสาท และต้องต่อแถวอีกเล็กน้อยเพื่อรอเล่นตัวเครื่องเล่นของจริง ซึ่งในระหว่างที่เคลื่อนที่ไปตามแถว เราก็จะได้พบกับตัวละครขวัญใจผู้ชมอย่าง ลูมิแอร์และค็อกสเวิร์ธ ซึ่งเป็นเอนิเมทรอนิกส์(หุ่นยนตร์)ที่เหมือนจริงสุด ๆ 

ถึงเวลาขึ้นเครื่องเล่นจริง เราก็จะได้ขึ้นนั่งบนรถที่รูปร่างเหมือนถ้วยน้ำชายักษ เจ้าถ้วยน้ำชานี้จะพาเราท่องไปในเรื่องราวของเบลตั้งแต่ตกลงยอมพักอยู่ที่ปราสาทกับเจ้าชายอสูร จนถึงตอนจบของเรื่องที่คำสาปของเจ้าชายอสูรได้คลายลง ในระหว่างการเล่นเราก็จะได้ฟังเพลงเพราะ ๆ จากในภาพยนตร์ ซึ่งบอกเลยว่าคนพากษ์เจ้าหญิงเบลภาษาญี่ปุ่นเสียงใสมากก 

 

 

น่าจะเป็นเพราะเครื่องเล่นนี้เป็นเครื่องเล่นที่ใหม่ที่สุดของ โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2020 นี้เอง จึงทำให้เทคโนโลยีของเครื่องเล่นนี้ใหม่เอี่ยม สมจริง ลื่นไหล และสวยงามเหมือนกับสร้างด้วยเวษมนตร์จริง ๆ มาก ๆ อันนี้เป็นจุดที่เราประทับใจในเครื่องเล่นนี้เลย

แต่ขอแอบเตือนนิดนึงนะว่าคนที่เวียนหัวง่าย เล่นเครื่องนี้อาจจะมึนนิดนึงนะคะ เพราะเจ้าถ้วยน้ำชาที่เรานั่งจะหมุนไปหมุนมาเยอะพอสมควร แต่สำหรับเราที่เวียนหัวค่อนข้างง่ายเหมือนกัน เราว่าโอเคอยู่น้า อาจจะมึนแบบนิดเดียวเลยจริง ๆ ไม่ได้เวียนหัวมากจนไม่เอ็นจอย  ไม่อยากให้พลาดเลยจริง ๆ ค่ะเครื่องนี้ แนะนำมาก ๆ



Snow White’s Adventure

 

 

เครื่องเล่นนี้ถึงแม้จะได้ชื่อว่าสร้างมาจากนิทานเจ้าหญิงอย่างสโนว์ไวท์ แต่ไม่ใช่เครื่องเล่นที่น่ารักสดใสอย่างที่คิด เป็นเครื่องที่จะพาเราท่องเรื่องราวของสโนว์ไวท์หลังโดนขับไล่ออกจากปราสาท รถของเราจะเคลื่อนที่ไปช้า ๆ ผ่านป่าอันมืดมิดในยามรัตติกาล โดยรถแต่ละคันจะเว้นระยะห่างจนเราแทบจะไม่เห็นรถคันอื่น ๆ เลย ให้ความรู้สึกราวกับว่าเราเป็นเจ้าหญิงสโนว์ไวท์ที่กำลังต้องเผชิญหน้ากับเส้นทางในป่าที่น่ากลัวเพียงลำพัง และในระหว่างทางเราก็จะต้องพบเจอกับราชินีที่แปลงร่างเป็นแม่มดมาคอยรังควานอยู่เรื่อย ๆ 

จะมีช่วงน่ารักสดใสให้ได้ชุ่มหัวใจอยู่เพียงแค่ตอนที่สโนว์ไวท์เดินทางไปถึงบ้านของคนแคระทั้งเจ็ด แต่โดยรวมแล้วเราคิดว่าบรรยากาศของเครื่องเล่นนี้ค่อนข้างจะวังเวงมากกว่าบ้านผีสิงอย่าง Haunted Mansion ซะอีก  อาจจะน่ากลัวสำหรับเด็ก ๆ ได้ถ้าพาลูกมานะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นคือเรารู้สึกว่ามันมีสเน่ห์น้าเครื่องเล่นนี้ ถ้าได้มาที่ โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ อีกคงมาเล่นอีกแน่นอน

 

Peter Pan’s Flight

 

 

เป็นเครื่องเล่นที่เราประทับใจมากอีกเครื่องหนึ่งในหมู่เครื่องเล่นนิทานเทพนิยายของ โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ ในเครื่องเล่นนี้ เราจะได้ตามรอยการผจญภัยของเวนดี้และน้องชายทั้งสอง ในการบินตามปีเตอร์แพนไปยังเนเวอร์แลนด์ ซึ่งการเดินทางของเราในครั้งนี้ก็เริ่มขึ้นตั้งแต่ในห้องนอนของเวนดี้เลย

รถที่เราจะได้นั่งไปในการท่องเรื่องราวครั้งนี้นั้นไม่ใช่รถที่วิ่งไปตามรางบนพื้นธรรมดา ๆ แต่เป็นกระเช้าเรือโจรสลัดลอยฟ้า ที่จะทำให้เราได้สัมผัสความรู้สึกเหมือนกำลังบินอยู่บนฟากฟ้าเหนือกรุงลอนดอนในยามราตรีจริง ๆ 

สิ่งที่เราประทับใจในเครื่องเล่นนี้คือความสร้างสรรค์และสวยงามของฉากและพร็อพต่าง ๆ ที่ช่วยให้เราได้หลุดเข้าไปอยู่ในเรื่องราวของปีเตอร์แพนและเวนดี้ เป็นเครื่องเล่นน่ารักที่สามารถเล่นได้เพลิน ๆ ชิว ๆ เลย  อยากให้ไปลองกันนะคะ

 

 

Haunted Mansion

 

 

บ้านผีสิงที่หนึ่งในใจเรา จากใจคนที่ปกติไม่ชอบเล่นบ้านผีสิงค่ะ  ด้วยความเป็นดิสนีย์ ถึงแม้จะเป็นเครื่องเล่นซึ่งมีธีมคือความน่าสลดสยอง แต่ก็ยังต้องเป็นมิตรกับเด็ก ๆ  บ้านผีสิงแห่งนี้จึงเป็นเครื่องเล่นที่ผสมผสานความขลังชวนขนลุกกับความตลกขบขันเอาไว้ด้วยกันได้อย่างกลมกลืนมาก ๆ สำหรับเราแล้วคฤหาสน์ร้างที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยแม้แต่คนเดียวแห่งนี้ เป็นบ้านที่มีชีวิตชีวาสุด ๆ 

เรื่องราวความเป็นมาของคฤหาสน์ผีสิงแห่งนี้นั้นมีอยู่ด้วยกันแต่เวอร์ชั่น แต่ถ้าหากยึดเอาตามที่คุณ Ghost Host หรือคุณผีที่เป็นเหมือนทัวร์ไกด์พาเราเที่ยวไปในคฤหาสน์แห่งนี้บอกมา เส้นเรื่องหลัก ๆ ก็คือ ที่คฤหาสน์นี้มีผีอยู่ทั้งหมด 999 ตัว และกำลังรอให้เราไปเป็นผีตัวที่ 1000 เมื่อเราก้าวเท้าเข้ามาในบ้านหลับนี้แล้ว คำสาปของที่นี่จะตามติดเราไป จนเราต้องกลับมาที่บ้านนี้อีกครั้งเพื่อเป็นผีตัวที่ 1000 ค่ะ

 

 

เราคิดว่าเครื่องเล่นนี้เป็นบ้านผีสิงที่ทำออกมาได้สวยมากก ตัวผีส่วนมากจะทำออกมาเป็นแนววิญญาณโปรงแสง จะค่อยไม่มีผีแบบหน้าตาเละน่ากลัว แล้วก็แทบจะไม่มี jump scare เลยด้วย เราจะได้เห็นเหล่าแก๊งผีมาจัดงานเลี้ยงเต้นรำในห้องโถงของคฤหาสน์ หรือปาร์ตี้ร้องเพลงกันในสุสาน เป็นภาพแปลกตาที่ทำให้เราได้รู้สึกว่าชีวิตหลังความตายนั้นรื่นเริงได้ขนาดนี้เชียว เป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่ไม่ควรพลาดเลยใน โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ นะคะ



It’s a Small World

 

 

หนึ่งในเครื่องเล่นคลาสสิกของดิสนีย์ที่ต้องลองเล่นสักครั้ง ไม่อย่างนั้นอาจรู้สึกเหมือนยังมาไม่ถึงดิสนีย์แลนด์ได้นะ! เป็นเครื่องเล่นที่เราจะได้ล่องเรือพร้อมชมตุ๊กตาเด็กน้อยซึ่งแต่งตายในชุดจากวัฒนธรรมต่าง ๆ ท่ามกลางฉากหลังที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อจำลองพื้นที่ท้องถิ่นต่าง ๆ บนโลก  เหล่าตุ๊กตาเด็กน้อยที่จะเต้นรำไปกับเพียง It’s a Small World ซึ่งมาเนื้อหาโดยสรุปคือเราทุกคนล้วนเป็นมิตรสหายกันภายในโลกใบเล็กนิดเดียวนี้ 

ความสนุกอีกอย่างหนึ่งของเครื่องเล่นนี้คือการเล็งหาตัวละครดิสนีย์ที่จะคอยแทรกอยู่ในฉากของประเทศต่าง ๆ ตามถิ่นกำเนิดของตน อย่างเช่น เจ้าหญิง Merida จากเรื่อง Brave มาโผล่อยู่ในฉากประเทศสกอตแลนด์ ราพันเซล ในฉากประเทศเยอรมัน หรือน้องลีโล่และเจ้าสติชในฮาวาย

ถือเป็นเครื่องเล่นพักเหนื่อยได้ดีมาก ๆ ใครเล่นรถไฟเหาะมาเหนื่อย ๆ หรือทานข้าวมาอิ่ม ๆ มาพักเล่นเครื่องนี้ก่อนได้เลยค่า 

แต่ใด ๆ คือบางคนก็บอกว่าเครื่องนี้แอบหลอนอยู่นะคะ ด้วยความที่มีตำนานเรื่องกุ๊กกู๋ผูกติดอยู่กับเจ้าเครื่องนี้อยู่พอสมควร และด้วยหน้าตาของตัวตุ๊กตาเด็กเองก็อาจจะแอบหลอนสำหรับบางคนด้วย สำหรับเครื่องบอกเลยว่าลูกไม่กลัวแต่พ่อแม่อาจจะกลัวได้ค่ะ(หยอกนะคะ) ยังไงก็ยังแนะนำเครื่องนี้ค่ะ นั่งเพลิน ๆ ฟิลกู๊ดมาก



Zone 3: Toontown

 

 

เป็นโซนที่สร้างไว้เหมือนเป็นเมืองที่อยู่ของตัวการ์ตูนในจักรวาลเรื่อง Mickey Mouse & Friends อย่าง มิกกี้และมินนี่เม้าส์ เดซี่และโดนัลดัค กู๊ฟฟี่ และพลูโต

เราคิดว่าโซนนี้น้อง ๆ หนู ๆ น่าจะชอบกันนะคะ เพราะตกแต่งเมืองออกมาได้น่ารัก เหมือนเป็นเมืองในการ์ตูนจริง ๆ  มีเครื่องเล่นแบบเบา ๆ เหมาะสำหรับเด็กน้อย นอกจากนี้เรายังสามารถไปมีตแอนด์กรี๊ตกับตัวการ์ตูนสุดโปรดถึงที่บ้านของแต่ละตัวละครได้เลย

 

 

สำหรับโซนนี้ส่วนตัวเราไม่ได้เข้าไปเล่นนะคะ เพราะเวลามีค่อนข้างจำกัดเลยทำให้ต้องรีบไปเก็บเครื่องเล่นที่อยากเล่นมาก ๆ ก่อน แต่ถ้าใครพาลูกมาเล่นโซนนี้คือห้ามพลาดเลย



โซนที่ 4: Adventureland

เป็นโซนที่ดิสนีย์สร้างขึ้นเพื่อจำลองดินแดนแปลกตาในทวีปที่ไกลโพ้นจากอเมริกาในความรู้สึกของคนสมัยวอลต์ ดิสนีย์ อย่างเกาะใกล้เส้นศูนย์สูตรต่าง ๆ อเมริกาใต้ หรือแอฟริกา 

 

เครื่องเล่นที่เราไปเล่นในโซนนี้มีเครื่องเดียวนะคะ ได้แก่

Pirates of the Caribbean


 

เป็นเครื่องเล่นซึ่งต่อมาได้สร้างเป็นภาพยนตร์ชุด Pirate of the Caribbean ที่หลาย ๆ รู้จักกันดีนั่นเอง โดยในเครื่องเล่นนี้เราจะได้ล่องเรือในยามค่ำคืนไปตามเส้นทางของ กัปตันโจรสลัดแจ็ก สแปร์โรว์ ที่ต้องการจะตามล่าสัมบัติที่ฝังอยู่บริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำในลุยเซียนาทางตอนใต้ของอเมริกา 

เราจะได้ผจญภัยผ่านถ้ำสมบัติใต้น้ำที่มีเพชรพลอยมากมาย ไปจนถึงหมู่บ้านในสเปนที่ที่เรือของกัปตันแจ็คสแปร์โรว์กำลังทำการต่อสู้ปล้นชิงกับทหารสเปน เป็นอีกเครื่องเล่นหนึ่งที่ทำฉากออกมาได้สวยสมจริงมาก ๆ 

เครื่องเล่นนี้มีจุดที่เรือจะดิ่งลงให้ได้หวาดเสียวแบบเบา ๆ มาก ๆ อยู่จุดหนึ่งค่ะ ใครที่อยากได้ความรู้สึกสนุกตื่นเต้นแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ไม่มากจนเกินไป เน้นชมภาพสวย ๆ เราแนะนำเครื่องเล่นนี้เลยค่ะ 

 

 

โซนที่ 5: Westernland

โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ เป็นสวนสนุกในเครือดิสนีย์เพียงแห่งเดียวที่มีโซน Westernland อยู่ แต่ถึงอย่างนั้นจะว่าโซนนี้เป็นเอกลักษณ์ของดิสนีย์แลนด์ที่ญี่ปุ่นก็อาจจะไม่เชิงนัก เพราะที่จริงแล้วที่ปาร์คอื่น ๆ ก็มีโซนนี้เหมือนกันเพียงแต่ใช้ชื่อ Frontierland ซึ่งเป็นการจำลองบรรยากาศของ Wild West หรือดินแดนแห่งคาวบอยและยุคตื่นทองที่อเมริกาในศตวรรษที่ 19

เครื่องเล่นที่เราได้ไปเล่นในโซนนี้ก็ได้แก่

 

Big Thunder Mountain

 

 

เครื่องเล่นรถไฟเหาะเครื่องแรกที่เราจะมาพูดถึงกันในบทความนี้  ซึ่งนับเป็นเครื่องเล่นแลนมาร์คเครื่องหนึ่งของ โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ เลย  ถึงแม้ชื่อและหน้าตาอาจจะดูน่าเกรงขาม แต่สำหรับเรา เราคิดว่าเครื่องนี้เป็นรถไฟเหาะที่สนุกและไม่น่ากลัวจนเกินไป เด็ก ๆ ก็สามารถเล่นได้สบาย ๆ  

เครื่องนี้จะไม่ได้มีจังหวะดิ่งแบบชันมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการวนขึ้นและวนลงไปตามราง แต่ก็ยังถือว่ามีจุดที่ทำให้เราได้หวาดเสียวอยู่ สำหรับใครที่คาดหวังอยากเล่นอะไรที่หวาดเสียวมาก ๆ เครื่องนี้อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์เท่าไรนัก แต่ใครที่ชอบเครื่องเล่นหวาดเสียวระดับกลาง ๆ บวกกับการได้ดูฉากและพร็อพสวย ๆ สมจริงไปด้วย ไปเล่นเครื่องนี้คือจอยแน่นอน

 

 

สำหรับตำนานที่ทางดิสนีย์ได้แต่งให้กับรถไฟเหาะขบวนนี้มีอยู่ว่า ในยุคตื่นทองของอเมริกา หลังจากที่ชาวตะวันตกได้ค้นพบว่ามีทองอยู่ในภูเขาแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ธุรกิจเหมืองมองในเมืองนี้ก็ได้รุ่งเรืองขึ้น ทว่าจริง ๆ แล้วภูเขาลูกนี้เป็นสถานที่ศักสิทธิ์ที่ชนพื้นเมืองเคารพบูชามาแต่ช้านาน แต่บริษัททำเหมืองทองชาวตะวันตกก็ได้เข้ามาครอบครอง ยึดภูเขาแห่งนี้ไปจากคนพื้นเมือง และใช้ประโยชน์จากมันโดยไม่สนใจอะไรนอกจากผลประโยชน์ของตนเอง 

อยู่มาวันหนึ่ง ราวกับเทพเจ้าตั้งใจลงโทษพวกที่โลภมาก เกิดภัยพิบัติใหญ่ขึ้น ณ ภูเขาแห่งนี้  ธุระกิจเหมืองทองจึงต้องหยุดชะงัก เหมืองทองที่ได้รับความเสียหายหนักก็ถูกทิ้งร้างตั้งแต่นั้นมา แต่ทว่า เขาว่ากันว่ารถรางที่ใช้ขนทองทั้งหลายกลับสามารถวิ่งโลดแล่นไปบนรางได้ถึงแม้จะไม่มีคนบังคับ การที่เราขึ้นเล่นรถไฟเหาะนี้ก็เปรียบเสมือนเราได้ขึ้นไปนั่งบนเจ้าพวกรถรางผีสิงนั่นเอง

 

 

โซนที่ 6: Critter Country

เป็นโซนที่มาคู่กับ Westernland เพราะเป็นการจำลองบรรยากาศอเมริกายุคศตวรรษที่ 19 เช่นกัน แต่จะเน้นเป็นในส่วนของป่าอันเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่าง ๆ ตามชื่อ Critter Country ซึ่งแปลว่าดินแดนของเหล่าสรรพสัตว์ 

 

เครื่องเล่นที่เราได้ไปเล่นในโซนนี้ก็ได้แก่

 

Splash Mountain

 

 

ส่วนตัวเรามองว่าเครื่องเล่นล่องซุงนี้เป็นเครื่องเล่นที่หวาดเสียวที่สุดใน โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ ค่ะ  

เครื่องเล่นนี้สร้างมาจากภาพยนตร์เรื่อง Song of the South ของดิสนีย์ โดยจะไม่ได้หยิบยกเส้นเรื่องหลักของภาพยนตร์มาทำ แต่เป็นนิทานในเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องราวของเจ้ากระตายตัวหนึ่งที่ออกเดินทางจากบ้านหรือถิ่นที่อยู่เดิมที่มันอาศัยอยู่กับสัตว์อื่น ๆ มากมาย เพื่อไปหา Laughing Place หรือดินแดนที่มีแต่ความสุขและเสียงหัวเราะ แต่ระหว่างทางเจ้ากระต่ายก็โดนเจ้าหมาจิ้งจอกและหมีผู้เป็นตัวร้ายของเรื่องนี้มาเล่นงานจนต้องหนีตายกระโดดน้ำตกลงมา ท้ายที่สุดเจ้ากระต่ายก็ล้มเลิกการตามหา Laughing Place และกลับสู่บ้านหลังเดิมของมัน ซึ่งที่นั่นเจ้ากระต่ายก็ได้รับการต้อนรับกลับบ้านอย่างอบอุ่นจากเพื่อน ๆ สัตว์ทั้งหลาย

 

 

ซึ่งรถไฟเหาะขบวนนี้ก็จะพาเราติดตามการเดินทางของเจ้ากระต่ายในการไปหา Laughing Place ซึ่งในซีนที่เจ้ากระต่ายกระโดดลงน้ำตกในตอนจบก็คือจุดที่ซุงของเราจะดิ่งลงจากน้ำตกสู้พื้นน้ำที่ด้านล่างเช่นกัน เราคิดว่าดิ่งนี้เป็นการดิ่งที่หวาดเสียวที่สุดจากเครื่องเล่นทั้งหมดของที่นี่ แต่นอกจากการดิ่งใหญ่นี้และดิ่งเล็ก ๆ อีกประมาณ 2 ครั้งเหมือนเป็นการวอร์มอัพ เวลาส่วนใหญ่ในเครื่องเล่นนี้ก็จะเป็นการนั่งชิว ๆ ดูเหล่าสัตว์ต่าง ๆ ร้องเพลงกัน ได้ทั้งความเพลิดเพลินและความหวาดเสียวรวมกันในการเล่นครั้งเดียวเลยค่ะ



โซนที่ 7: Tomorrowland

โซนสุดท้ายของดิสนีย์แลนด์สำหรับรีวิวนี้ก็คือดินแดนแห่งโลกอนาคตอย่าง Tomorrowland นั่นเอง  สำหรับธีมของโซนก็แน่นอนว่าจะต้องเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและโลกอวกาศนั่นเอง

โซน Tomorrowland นี้เป็นโซนที่ทางดิสนีย์ประสบปัญหามากที่สุดในการทำให้เวษมนตร์ความวิเศษของโซนนี้นั้นคงอยู่ไปในระยะยาว เพราะเทคโนโลยีก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ ทางดิสนีย์แลนด์ที่อเมริกาก็ได้ล้มเลิกการพยายามสร้างโลกอนาคตแบบสมจริงในโซนนี้ แล้วเปลี่ยนไปเป็นการตกแต่งสไตล์ retrofuturism หรือธีมโลกอนาคตตามที่คนในอดีตคิดว่าจะเป็น เป็นสไตล์ที่เห็นได้ในภาพยนตร์อวกาศในยุค 50s นั่นเอง เพื่อคงความคลาสสิคไม่ใช่ดินแห่งอนาคตนี้กลายเป็นความล้าสมัย 

 

 

สำหรับโซน Tomorrowland ของ โตเกียว ดิสนีย์แลนด์นั้น ทางสวนสนุกมีแผนจะปิดปรับปรุงเพื่อที่จะทำการตกแต่งโซนใหม่ในปีนี้ และจะเปิดอีกครั้งในปี 2570 โดยคอนเซปต์ของ Tomorrowland ใหม่นี้คือการที่มนุษย์สามารถอยู่ได้อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ ทางสวนสนุกจะทำออกมาได้เป็นอย่างไร สวยแค่ไหนก็คงต้องรอดูกันนะคะ

 

เครื่องเล่นที่เราได้ไปเล่นในโซนนี้ก็ได้แก่

 

Space Mountain

 

 

เป็นรถไฟเหาะในที่มืดเครื่องเดียวใน โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ และเป็นหนึ่งในเครื่องเล่นที่คนต่อแถวกันยาวเหยียดสุด ๆ  สำหรับเครื่องนี้ เราคิดว่าเป็นรถไฟที่เหวี่ยงแรงที่สุดในสวนสนุกนี้ค่ะ แต่จะไม่ค่อยมีจังหวะดิ่งแบบหวาดเสียวนะคะ ส่วนใหญ่จะเป็นการวิ่งโค้งขึ้นโค้งลงไปตามราง แต่เหวี่ยงแรงมากจริง ๆ ตอนไปเล่นคือเก็บแขนแล้วจับยึดราวกั้นบนเก้าอี้ไว้อย่างเดียวเลยค่ะ 

ในส่วนของแสงสีเราคิดว่าให้ความรู้สึกอาวองการ์ดได้ดีเลย แต่โดยส่วนตัวการเล่นแสงสีอาจจะไม่ได้ถูกใจเทสเรามาก และอาจจะไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังบินอยู่ในอวกาศมากขนาดนั้น นอกจากนี้คนที่ไม่ชอบที่แคบแบบเราอาจรู้สึกอึดอัดได้เล็กน้อย สำหรับเราคิดว่าเครื่องนี้ไม่ได้แย่ แต่เราอาจจะเลือกที่จะไม่กลับไปเล่นเครื่องนี้อีกหากได้ไป โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ ในครั้งหน้า  ทั้งนี้ก็มีหลาย ๆ คนที่รีวิวว่าชอบเล่นเครื่องนี้มากอยู่นะคะ ถ้าใครไปครั้งแรกยังไงก็อยากให้ลองไปเล่นกันดูน้า

 

 

รีวิวอาหารใน โตเกียว ดิสนีย์แลนด์

ต่อมา มาแนะนำของกินน่าลองใน โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ กันบ้างดีกว่า อันนี้เราจะรีวิวของกินที่ส่วนตัวเราได้ทานมาน้า

 

1. ป๊อบคอร์น

 

 

ป๊อปคอร์นของ โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ นั้นมีความพิเศษคือมีรสชาติแปลก ๆ ให้เราได้ชิมกัน ซึ่งในแต่ละโซนก็จะขายรสชาติป๊อปคอร์นแตกต่างกันไป อย่างอันที่เราได้ทานมาเป็นรสโชยุนะคะ อร่อยแปลกใหม่ดีเลยค่ะ ส่วนรสอื่น ๆ ที่ในปาร์คมีก็อย่างเช่น รสแกงกะหรี่ รสน้ำผึ้ง แล้วก็รสมิลค์ช็อกโกแลตค่ะ 

 

 

2. ชูโรส

 

 

ชูโรสก็เช่นเดียวกับป๊อปคอร์นเลยค่ะ เป็นของหาทานง่ายประจำสวนสนุกแห่งนี้ มีรสแปลก ๆ ที่น่าสนใจอยู่ แต่อาจไม่ได้มีรสชาติให้เลือกเยอะเท่าป๊อบคอร์นนะคะ ส่วนตัวที่เราได้ไปทานมาจะเป็นรสซินนามอนค่ะ 

เราเห็นที่ร้านข้างเครื่องเล่นโฉมงามกับเจ้าชายอสูรมีชูโรสรสแอปเปิ้ลคาราเมลขายด้วยน้า เสียดายมากเลยที่ตอนนั้นไม่ได้ไปทาน



3. โมจิกรีนแมน

 

 

เป็นของกินที่พลาดไม่ได้เลยถ้าหากมาเยือน โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ ด้วยหน้าตาที่น่ารักสุด ๆ และรสชาติที่อร่อยเอาเรื่อง ทำให้ใคร ๆ ต่างก็ต้องมากินเจ้าเซ็ตโมจิก้อนพวกนี้ สำหรับเราส่วนตัวเราคิดว่าไส้สตรอวเบอร์รี่อร่อยมากกก ๆ ส่วนอีกสองรส ไส้ครีมและไส้ช็อกโกแลต ก็อร่อยเหมือนกันแต่อาจจะไม่ได้ว้าวเท่าค่ะ อันนี้เค้าจะขายมาเป็นเซ็ต 3 ลูกคละรสเท่านั้น เลือกรสไม่ได้นะคะ ได้ลองชิมทั้ง 3 รสเหมือนกันหมดแน่นอน



4. อาหารในร้าน Queen of Hearts Banquet Hall

 

 

 

เป็นร้านอาหารในธีมราชินีแดงจากเรื่อง Alice in Wonderland ที่ตกแต่งทั้งด้านนอกและด้านในได้สวยมาก ๆ  มีที่นั่งให้นั่งแบบสบาย ๆ ตอนนั้นเราไปนั่งพักเหนื่อยหลบฝนคือฟินมาก ๆ  ซึ่งนอกจากตัวร้านจะสวยแล้วอาหารที่นี่รสชาติยังอร่อยไม่แพ้หน้าตาอีกด้วย เมนูที่เราสั่งมาทานคือ Flank Steak with Japanese Sauce ค่ะ คือเป็นเสต็กเนื้อนุ่มราดซอสสไตล์ญี่ปุี่นและมีเครื่องเคียงต่าง ๆ นอกจอกนี้เรายังอดใจไม่ไหว หยิบขนมหวานมาด้วย 1 อย่างคือเหมือนจะเหมือนคัสตาร์ตหรือพุดดิ้งนมในถ้วยแก้วลายน่ารัก ซึ่งทานเสร็จแล้วเรายังสามารถเก็บแก้วกลับบ้านได้อีกด้วย



 

สิ่งที่ต้องทำเมื่อไป โตเกียว ดิสนีย์แลนด์

จริง ๆ แล้วจะเรียกว่าสิ่งที่ "ต้องทำ" ก็อาจจะดูบังคับกันเกินไปหน่อย เอาเป็นว่าเป็นสิ่งที่คนเขานิยมทำกันเมื่อไป โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ แล้วกันนะค้า จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

 

1. ซื้อที่คาดผมหูมิกกี้/มินนี่ เม้าส์

 

 

การซื้อเครื่องหัวอย่างที่คาดผมหรือหมวกรูปตัวการ์ตูนดิสนีย์ต่าง ๆ ใส่เที่ยวในสวนสนุกนับเป็นธรรมเนียมอย่างหนึ่งในการมาเที่ยวดิสนีย์แลนด์ไม่ว่าจะเป็นปาร์คไหนก็ตาม จะใส่ไปถ่าย mirror selfie ในร้านกิ๊ฟช็อปหรือจะใส่ไปถ่ายรูปตามจุดต่าง ๆ ก็เก๋สุด ๆ แต่เวลาไปเล่นเครื่องเล่นก็อย่าลืมเก็บที่คาดผมให้เรียบร้อยด้วยนะค้า

 

 

2. ถ่ายรูปกับปราสาทเจ้าหญิง

 

 

แลนมาร์คถ่ายรูปสำคัญของ โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ ก็คงจะหนีไม่พ้นปราสาทเจ้าหญิงซินเดอเรลล่า ซึ่งจุดที่คนนิยมชอบไปถ่ายรูปกับปราสาทกับก็จะมีบริเวณสนามหญ้าหน้าปราสาท และสะพานข้างปราสาทค่า

 

 

3. ดูขบวนพาเหรด

 

 

ขบวนพาเหรดของดิสนีย์แลนด์นั้นขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม น่ารัก อลังการ และน่าตื่นตาตื่นใจอยู่แล้ว ในขบวนก็จะมีตัวละครดิสนีย์ต่าง ๆ บนรถของตนมาโชว์ตัวให้เราดูจนต้องยิ้มไปพร้อม ๆ กัน โดยขบวนพาเหรดจะมีตอนกลางวัน 1 ครั้ง ประมาณช่วง 14:00 น. และพาเหรดตอนกลางคืนที่จะเริ่มประมาณช่วง 18:30 - 19:30 น. แต่น่าเสียดายที่วันที่เราไปฝนตกทางปาร์คเลยยกเลิกขบวนพาเหรดตอนกลางคืนค่ะ 

ส่วนใครที่ไม่ใช่สายดูพาเหรด ช่วงดูพาเหรดนี่สำคัญมากเลยค่ะ เพราะจะเป็นช่วงที่แถวเครื่องเล่นสั้นลงเนื่องจากคนไปมุงดูพาเหรดกัน ใครที่เล็งเครื่องเล่นไหนไว้แล้วยังไม่ได้ไปเล่น รีบวิ่งไปช่วงนี้ได้เลยค่ะ!

 

 

4. ซื้อขนมของฝากจากร้านกิ๊ฟช็อป

ส่วนตัวเราชอบขนมจากกิ๊ฟช็อปที่ โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ มากกก เป็นขนมที่มีบรรจุภัณฑ์น่ารัก ผสมผสานความเป็นดิสนีย์กับความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว และตัวขนมโดยเฉพาะพวกคุกกี้ก็รสชาติอร่อยแบบไม่ธรรมดาเลย ซื้อไปเป็นของฝากก็ดี หรือจะซื้อไปกินไปเก็บเองก็ถือเป็นของขวัญให้ตัวเองได้ดีเช่นกัน

ก็จบไปแล้วนะคะกับการรีวิวครั้งนี้ หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์จากรีวิวนี้ไปบ้างไม่มากก็น้อยนะค้า ขอให้ทุกคนได้วางแพลนทริปอย่างราบรื่นและไปสนุกกันที่ โตเกียว ดิสนีย์แลนด์กันให้เต็มที่เลยค่า

 

 

แพ็กเกจทัวร์เที่ยวโตเกียว

 

ถ้าใครขี้เกียจวางแพลนเที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง ลองมาซื้อทัวร์ญี่ป่นกับเราดูได้น้า ทัวร์เหล่านี้เป็นทัวร์ที่เราจะได้ไปเที่ยว โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ และที่เที่ยวยอดนิยมอื่น ๆ อีกมากมายกับเราแบบสะดวกสบาย ในราคาประหยัดสุด ๆ 

 

 

1. โตเกียว + ยามานาชิ 5 วัน 3 คืน: ชมวิวฟูจิ + ทุ่งลาเวนเดอร์ + ออนเซ็น + โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ (ตัวเลือกเสริม)

 

2. โตเกียว + ยามานาชิ 5 วัน 3 คืนนั่งกระเช้าคาจิคาจิ + โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ (ตัวเลือกเสริม)

 

3. โตเกียว + ยามานาชิ 6 วัน 4 คืน: ชมวิวฟูจิ + เจดีย์ชูเรโตะ + โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ (ตัวเลือกเสริม)

 

4. โตเกียว + นากาโนะ 6 วัน 4 คืน: คามิโคจิ + ทุ่งลาเวนเดอร์ + โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ (ตัวเลือกเสริม)

 

5. โตเกียว + นากาโนะ 6 วัน 4 คืนคามิโคจิ + ฟูจิ + เทศกาลพิงก์มอส + โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ (ตัวเลือกเสริม)




และการรีวิว โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ ในครั้งนี้ก็ได้จบไปแล้วนะค้า หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์จากรีวิวนี้ไปบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ  ขอให้ทุกคนวางแพลนทริปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ได้อย่างราบรื่น หรือใครไม่อยากวางแพลนเองก็จัดแพ็กเกจทัวร์ได้เลย แล้วไปสนุกกันที่ โตเกียว ดิสนีย์แลนด์กันให้เต็มที่เลยค่า

 

 

สิ่งที่น่าสนใจ
สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพฯ รวม 25 ที่เที่ยวพัทยา อัปเดตปี 2567 รวมที่เที่ยวเขาใหญ่ ออกไปพักผ่อนชิล ๆ ท่ามกลางวิวธรรมชาติ 32 ที่เที่ยวหัวหิน-ชะอำ ตะลุยเช็คอิน ฟินทั้งครอบครัว อัปเดต 2024 เที่ยวภูเก็ต เกาะสุดเด็ดห้ามพลาด 26 ที่เที่ยวเชียงใหม่ ฉบับอัปเดต 2024 ล่าทะเลหมอกหน้าฝนที่เขาค้อ ขันโตกพร้อมอาหารค่ำในเชียงใหม่ สวนน้ำยอดฮิตในประเทศไทย โปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต KTC 2024 ล่องเรือเจ้าพระยา บุฟเฟ่ต์ เจ้าไหนดี จองโซนที่นั่งได้ โปรโมชั่น 2567 ลดเพิ่ม 10% 16 ที่เที่ยวโรแมนติก ไปเดทกับคนพิเศษวันวาเลนไทน์ 2567 9 จุดเช็คอินเกาะสมุย ถิ่นปะการังงาม อัพเดท 2024 รีวิวเรือเมอริเดียน ครูซ 9 สถานที่เที่ยวในกรุงเทพ ไม่ต้องหยุดยาวก็เที่ยวได้ ล่องเรือทานอาหารค่ำวันลอยกระทง กรุงเทพ 7 กีฬาเอ็กซ์ตรีมรอบกรุงเทพ ที่จะทำให้อะดินารีนพลุ่งพล่าน ล่องเรือสำราญเจ้าพระยาช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ล่องเรือเจ้าพระยา เคาท์ดาวน์ที่กรุงเทพ ชมพลุฉลองปีใหม่ 2568 กิจกรรมปิดเทอม เที่ยวที่ไหนดี? รีวิวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน ไปเช้าเย็นกลับ ทัวร์เที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ ไปเช้าเย็นกลับ ที่เที่ยวภูเก็ตฉบับครอบครัว 2567 โปรโมชั่นเรือดินเนอร์แม่น้ำเจ้าพระยา วันวาเลนไทน์ 2567 โปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต ttb 2024 ทะเลภูเก็ต...เกาะไหนเด็ดบ้างนะ 2567 รวมสวนสัตว์และอควาเรียมที่น่าไปในประเทศไทย ล่องเรือยอร์ชหรู ภูเก็ต ไม่แพงอย่างที่คิด สัมผัสความหรูหรากับการล่องเรือยอร์ชส่วนตัวที่ภูเก็ต ในราคาที่จับต้องได้ เที่ยวเมืองเกาะครึ่งร้อย...ลอยคอที่ทะเลตราด ที่เที่ยวในกรุงเทพฯ ฉบับครอบครัว 2567 กินปู ดูปะการัง เช็คอินถิ่นฉลามวาฬ ที่ชุมพร กิจกรรมดำน้ำ ทะเลไทย เที่ยวได้ทั้งปี ที่เที่ยวเกาะเต่า สวรรค์ของนักดำน้ำ อัพเดท 2024 วิวสุดปังที่พังงาเมืองสวยในหุบเขา 10 จุดดำน้ำที่ทะเลชุมพร เส้นทางขับรถเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เที่ยว “เกาะพีพี” สวรรค์แห่งอันดามัน รวมจุดเช็คอินห้ามพลาดในจันทบุรี จุดเช็คอินน่าเที่ยวในกระบี่ เที่ยวเกาะเต่า พะงัน สมุย ง่าย ๆ ด้วยเรือเฟอร์รี่ 6 จุดเล่นเซิร์ฟ ภูเก็ต พังงา ยอดฮิตติดเทรนด์ ปี 2024 5 ที่เรียนดำน้ำ Freediving เกาะเต่า กาญจนบุรี ไปเที่ยวกี่ทีก็หลงรัก รวมแพ็กเกจเที่ยวเกาะเต่าสุดคุ้ม รีวิวทัวร์เกาะราชา เกาะเฮ ภูเก็ต ด้วยเรือยอร์ช รวม 7 ซิปไลน์น่าเล่นในประเทศไทย โปรโมชั่นส่วนลดพิเศษฉลองวันตรุษจีน 2567 ทัวร์เที่ยวไทยไปกับ Ticket2Attraction 2567 ตะลุยเกาะหลีเป๊ะ ถ่ายรูปวิวแบบเป๊ะปัง รวมทริปดำน้ำตื้นทั่วไทย อัพเดท 2024 รวมสถานที่รับประทานอาหารค่ำสุดหรูในกรุงเทพฯ 2567 โปรโมชั่นร่วมกับบัตรเดบิต KTB 2024 เที่ยวกรุงเทพแบบฮอปออน-ฮอปออฟ รวมบุฟเฟต์โรงแรมใบหยกสกาย รีวิวเที่ยวเกาะเต่า-เกาะนางยวน 3 วัน 2 คืน เช่าเรือเหมาลำส่วนตัวล่องแม่น้ำเจ้าพระยา รวมคาบาเร่ต์โชว์ สุดอลังการในไทย 2567 รวมศูนย์อนุรักษ์ช้างน่าเที่ยวที่เชียงใหม่ รวมแพ็กเกจทัวร์กรุงเทพและรอบๆ วันเดย์ทริป 9 โรงเรียนสอนทำอาหารไทยยอดนิยม เชียงใหม่ รวมที่เที่ยวเมืองตรัง ได้ไปสักครั้งแล้วจะติดใจ รีวิวเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ 3 วัน 2 คืน รวม 9 เกาะสวย ทะเลใส หาดทรายขาว ใกล้กรุงเทพ รวมบัตรเรือเฟอร์รี่เที่ยวเกาะทั่วไทย อัปเดตฟูลมูนปาร์ตี้เกาะพะงัน ปี 2024 รวม 20 ที่เที่ยว Indoor อัปเดต 2024 เที่ยวชิลล์ๆได้ ไม่กลัวฝน One day trip เที่ยวอ่าวพังงา เกาะปันหยี เสม็ดนางชี ไฮไลท์เด็ดห้ามพลาด 11 ที่เที่ยวดูพระอาทิตย์ตกในกรุงเทพฟินๆ รวมบัตรเรือเฟอร์รี่เที่ยวเกาะทั่วไทย โดยเรือลมพระยา รวมทริปดำน้ำเกาะสมุย 2024 Legacy private yacht charter review: Bangkok’s best luxury dining experience 12 ไอเดีย พาแม่เที่ยวแบบใหม่ เที่ยวง่ายๆ ต้อนรับวันแม่แห่งชาติ 2024 9 Best Ethical Elephant Sanctuaries in Phuket 20 สุดยอดกิจกรรมต้องลองที่เกาะล้าน พัทยา รวมบุฟเฟต์โรงแรม 2024 เลิศหรู อร่อยฟิน อิ่มได้ไม่อั้น 28 สิ่งที่ต้องทำที่เชียงใหม่ 2024 โปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต AEON 2024 ล่องเรือชมพลุริมแม่น้ำเจ้าพระยาสุดอลังการ ในงาน Vijit Chao Phraya 13 เกาะที่ดีที่สุดใกล้ภูเก็ต 7 Bike Tours in Bangkok for off-the-beaten-path experience ล่องเรือดินเนอร์บุฟเฟ่ต์แม่น้ำเจ้าพระยา จากเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ล่องเรือดินเนอร์บุฟเฟ่ต์แม่น้ำเจ้าพระยา จากไอคอนสยาม เช่าเรือยอชท์พัทยาปี 2024: เปรียบเทียบเส้นทางและราคา! 5 เขตรักษาพันธุ์ช้างที่ดีที่สุดในเกาะสมุยเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติ 10 กิจกรรมเอดเวนเจอร์สุดมันส์ที่พัทยา พิกัดเที่ยว 5 ปางช้างในกระบี่สำหรับสายรักสัตว์ สงกรานต์ 2567: สิ่งที่ทุกคนควรรู้และต้องเตรียมตัว รีวิว โตเกียว ดิสนีย์แลนด์ ท่องดินแดนมหัศจรรย์ของดิสนีย์ในญี่ปุ่น เปรียบเทียบทัวร์ญี่ปุ่น โตเกียว&ฟูจิ และ 10 จุดชมภูเขาไฟฟูจิสุดปัง เมนูล่องเรือดินเนอร์เจ้าพระยาปี 2024 พร้อม option มังสวิรัติและฮาลาล คู่มืออุทยานแห่งชาติเขาสก: วิธีเดินทางและสิ่งที่ต้องทำ โปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต CardX 2024