เกาะเต่า ตั้งอยู่บนพื้นที่อำเภอพะงัน จังหวัดสุราษฎ์ธานี บริเวณโดยรอบเกาะเต่ามีเกาะสำคัญอีก 2 เกาะที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล นั่นคือ เกาะพะงัน และเกาะนางยวน ซึ่งทุกคนสามารถนั่งเรือไปเที่ยวชมสิ่งสวยงามของเกาะอื่นได้ เช่น ทะเลแหวกบนเกาะนางยวน และ ที่เที่ยวยอดฮิตบนเกาะสมุยนั่นคือ เกาะมัดสุมนั่นเอง
เกาะเต่าเป็นเกาะเล็กๆ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ของโลกใต้ท้องทะเลอย่างมาก ทั้ง ดอกไม้ทะเล(ปะการัง) , ปลาหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึง เต่าตะนุ และบางครั้งเราอาจจะได้พบกับฉลามวาฬอีกด้วย จึงเป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงในหมู่ที่ชื่นชอบกิจกรรมการดำน้ำ
วิธีการเดินทาง
การเดินทางไปเกาะเต่า ต้องใช้เรือเฟอร์รี่ข้ามเท่านั้น โดยจุดเริ่มสามารถเริ่มจาก กรุงเทพ , ชุมพร , สุราษฎ์ธานี , เกาะพะงัน , เกาะสมุย
ทริปในครั้งนี้ เราเริ่มต้นการเดินทางจากกรุงเทพ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง ถึงท่าเรือทุ่งมะขามน้อย จังหวัดชุมพร สำหรับใครที่จองตั๋วผ่านทาง Ticket2Attraction สามารถเปิด Voucher ผ่านทางโทรศัพท์มือถือเพื่อแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ ณ ห้องบริษัทลมพระยา
เมื่อเราลงทะเบียนและรับตั๋วขึ้นเรือเรียบร้อยแล้ว ตรงบริเวณท่าเรือจะมีร้านอาหารตั้งอยู่ สำหรับใครที่อยากทานกาแฟ ขนมปัง รองท้องระหว่างรอขึ้นเรือก็สามารถมาที่จุดบริเวณนี้ได้
7.00 น. เริ่มเดินทางขึ้นเรือลมพระยา จาก ท่าเรือทุ่งมะขามน้อย ไปยัง เกาะเต่า ใช้ระยะเวลาประมาณ 1.45 ชั่วโมง ระหว่างเดินทางเราสามารถออกไปชมวิวหรือถ่ายรูป บริเวณด้านนอกของเรือได้ตามอัธยาศัย
11.00 น. เมื่อเดินทางถึงเกาะเต่า เราก็พร้อมออกเดินทาง ไปเที่ยวจุดชมวิวรอบเกาะเต่า ได้แก่ Love Kohtao , Moon dance Magic , West Coast , John Suwan , Freedom Beach โดยการเดินทางครั้งนี้เราเดินทางโดยรถกระบะท้องถิ่นของเกาะเต่า
Love Kohtao
จุดชมวิวที่ตั้งอยู่บนภูเขา โดยเราจะสามารถมองเห็นวิวของนำทะเลสีฟ้าคราม บนจุดชมวิวแห่งนี้มีหลายโซนที่เราสามารถโพสต์ท่าถ่ายรูปให้สวยเพื่อลงโซเชียลอวดเพื่อนได้ นอกจากนี้จุดนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยมากแถมด้านบนยังมีร้านคาเฟ่ให้นั่งชิลอีกด้วย
Moondance Magic View
จุดชมวิวริมหน้าผาที่มีโขดหินทั้งใหญ่และเล็กสลับกันไปมา มีบันไดไม้ให้เราเดินลงไปถ่ายรูปบริเวณระเบียงไม้เลียบชายทะเลเรียกได้ว่ามุมนี้สวยจนทุกคนต้องเตรียมพร็อบไปถ่ายรูปแบบจัดเต็มแน่นอน
West Coast
จุดชมวิวยอดฮิตไฮไลท์ที่สุดบนเกาะเต่าที่ใครมาเกาะเต่าก็ต้องห้ามพลาด โดยจุดนี้ทุกคนจะพบกับก้อนหินสองก้อนขนาดใหญ่ที่พิงกันและมีจุดเว้าตรงกลาง ตรงจุดนี้เราจะสามารถถ่ายรูปช่วงที่พระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม เชื่อว่าถ้าอัพรูปลงไปเพื่อนต้องทักมาถามแน่นอนว่าคือที่ไหน
John Suwan
อีกหนึ่งจุดที่ห้ามพลาดบนเกาะเต่า ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงโดยจุดนี้ถ้าทุกคนได้เดินขึ้นไปจะสามารถมองเห็นทะเลรอบเกาะเต่าที่มีสันเขาและป่าไม้เขียวชอุ่มที่คอยคั่นกลางขนาบข้างด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใส แต่ขอบอกว่าจุดนี้หากใครต้องการขึ้นไปเราขอแนะนำให้เตรียมกายเตรียมใจให้พร้อมเพราะมีการปีนป่ายและไต่เชือก
Freedom Beach
จุดสุดท้ายของวันแรกที่เราจะไป คือ Freedom Beach ซึ่งเป็นชายหาดเงียบสงบที่เราสามารถทำกิจกรรมดำน้ำตื้น , พายเรือคายัค หรือจะนอนอาบแดดบนหาดทรายขสีขาวเนียนละเอียดดูแล้วสบายตาเหมาะกับการไปพักผ่อนให้หายเหนื่อยจากการเรียนการทำงานสุดๆ
หลังจากที่ตะลุยและเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องมาหาอะไรลงท้องกันหน่อย ขอแนะนำร้านอาหาร Blue Heaven เป็นร้านอาหารท้องถิ่นที่มีเมนูหลากหลายให้เลือกสั่งกันเลย แถมบรรยากาศของร้านตั้งอยู่บนเขาสูงสามารถมองเห็นวิวและถ่ายรูปเล่นได้อีก
เช้าวันที่ 2 พอเราทานอาหารที่โรงแรมเสร็จก็เริ่มเดินทางไปทำกิจกรรมอีก 1 อย่าง สุดฮิตที่สุดของการมาเกาะเต่า นั่นคือ ดำน้ำ 5 จุดรอบเกาะเต่า ซึ่งเกาะเต่าแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ใครเป็นสายดำน้ำตื้น หรือ ดำน้ำลึก ต้องห้ามพลาดอย่างแน่นอน และการเดินทางในวันนี้เราเดินทางโดยเรือไม้ขนาดใหญ่ สำหรับใครที่ไม่อยากลงดำน้ำแต่อยากเล่นน้ำแบบสนุก บนเรือมีสไลเดอร์อยู่บริเวณด้านหลังสามารถลงเล่นได้ ตามจุดที่ทางเรือพาไปดำน้ำค่ะ
เกาะนางยวน
เกาะเล็กที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเกาะเต่า เพียงแค่นั่งเรือมาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะพบกับเกาะที่มีสันทรายสีขาวที่เชื่อมระหว่างเกาะน้อยอีก 2 เกาะ ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใส สำหรับใครที่เป็นสายลุยเราขอแนะนำให้ทุกคนได้ลองเดินขึ้นไปด้านบน รับรองได้ว่าทุกคนจะได้เห็นความสวยของเกาะนางยวนทั้งเกาะ
อ่าวม่วง
จุดดำน้ำตื้นที่รายล้อมไปด้วยแนวปะการังอันสวยงามทั้งสองฝั่ง มีปะการังทั้งกลุ่มเล็ก กลุ่มน้อยจับตัวกันเป็นก้อนอยู่ใต้ท้องทะเล เป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องห้ามพลาดที่จะลงไปดำน้ำ
อ่าวหินวง
จุดดำน้ำตื้นยอดฮิตกับทัศนียภาพอันสวยงามที่รายล้อมไปด้วยโขดหินและน้ำทะเลสีฟ้าครามโดยจุดนี้เราจะสามารถพบกับปะการังหลากหลายชนิด และ ปลานกแก้วที่มีสีสันสวยสดงดงาม
อ่าวลึก และ อ่าวฉลาม
เป็นสองจุดไฮไลท์ที่ห้ามพลาดที่สุดของการดำน้ำ ซึ่งจุดนี้ทุกคนจะได้พบกับ สัตว์ทะเลอย่างน้องเต่าตะนุ ที่เป็นจุดเด่นของเกาะเต่าจริงๆ ถ้าใครมาแล้วไม่ได้ดำน้ำลงไปถ่ายรูปกับน้องเต่าถือว่ามาไม่ถึงนะคะ
ทริปดำน้ำในวันนี้ก็จบลงแล้ว ถึงจะเหนื่อยแต่บอกเลยว่ามันคุ้มค่ากับการไปดำน้ำมากๆ สำหรับใครที่ต้องการทริปดำน้ำ สามารถกดดูรายละเอียดและจองทริปดำน้ำตื้นเกาะเต่าเต็มวัน
แต่ขอบอกก่อนว่าวันที่ 2 ยังไม่จบเพียงแค่ทริปดำน้ำ เพราะเราจะบอกว่าไฮไลท์จริงๆของเกาะเต่าก็คือ สีสันยามค่ำคืนที่เกาะเต่าจะประดับไฟหลากหลายสีแถมกิจกรรมเด่นก็คือ การโชว์ควงกระบองไฟ ที่บอกเลยว่าดูเพลินสุดๆ
โรงแรมที่เราพักกันในทริปนี้ ชื่อว่า Kohtao Montra Resort เป็นโรงแรมสไตล์โมเดิร์นที่มีความเป็นไทยผสมด้วย ซึ่งที่พักแห่งนี้จะอยู่ติดกับทะเลสามารถเดินเล่นชายหาดเหมาะแก่การนั่งชิลชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น
และแล้วก็ถึงวันสุดท้ายที่เราจะอยู่บนเกาะเต่าแล้ว หลังจากที่ทานอาหารเช้าเราก็เตรียมตัวไปที่เรือแม่หาด เพื่อรอขึ้นเรือลมพระยา รอบ 10.15 น. เพื่อเดินทางกลับไปยังชุมพร พร้อมกับความประทับใจอีกมากมาย
วิธีการจองแพ็กเกจ
แพ็กเกจทัวร์เที่ยวไทยเกาะเต่า3วัน2คืน ที่พักติดชายทะเล รวมกิจกรรมดำน้ำพร้อมนั่งรถชมรอบเกาะเต่า จองง่ายๆสบายกระเป๋า สามารถจองผ่านทาง line @ticket2attraction หรือสามารถดูแพ็กเกจทัวร์เที่ยวไทยเกาะเต่า 3 วัน 2 คืน
สิ่งที่รวมในแพ็กเกจ
📌 รถบัสและเรือเฟอร์รี่ ไป-กลับจากกรุงเทพ – เกาะเต่า
📌 ทัวร์จุดชมวิวรอบเกาะเต่า
📌 ดำน้ำ 5 จุดรอบเกาะเต่า
📌 ที่พักสำหรับ 2 คืน Kohtao Montra Resort
สรุปสุดท้ายทริปนี้บอกเลยว่าเป็นการเปิดประสบการณ์การเดินทางมาเกาะเต่าครั้งแรกและกิจกรรมการดำน้ำที่คุ้มค่ามากๆ สำหรับใครที่อยากลองมาเที่ยวเกาะเต่าแต่กลัวจะเก็บที่เที่ยวไม่ครบ สามารถตามอ่านรีวิวนี้ได้เลยค่ะรับรองว่า เที่ยวครบ จบทุกไฮไลท์แน่นอน
เขียนโดย
หวานใจ
อัพเดทล่าสุด เดือนกันยายน 2565