เกาะเต่า เป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเกาะทะเลใต้ฝั่งอ่าวไทยมีรูปร่างโค้งเว้าคล้ายเมล็ดถั่ว ห่างจากเกาะพะงันไปทางทิศเหนือประมาณ 45 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 21 ตารางกิโลเมตร โดยเกาะเต่านั้นใกล้กับเกาะนางยวนมาก ๆ เลย เรียกว่ามาเกาะเต่าแล้วก็ต้องแวะไปเกาะนางยวนเพื่อขึ้นไปบนจุดชมวิวอันเลื่องชื่อเพื่อชมทะเลแหวกจากมุมสูงอีกด้วย
เกาะเต่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำเรียกว่าไม่ได้เกินจริงเลย ในปี พ.ศ. 2558 เว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดังของโลก ‘Tripadvisor’ ได้ประกาศอันดับ 10 เกาะยอดนิยมจากการเลือกของนักท่องเที่ยวทั่วโลก (Traveler’s Choice Island) โดยเกาะเต่านั้นได้ถูกโหวตให้อยู่ในอันดับที่ 5 ของโลกและเป็นอันดับที่ 1 ของเกาะยอดนิยมของเอเชียอีกด้วย นอกจากนี้ยังถูกจัดเป็น 1 ใน 10 ของแหล่งเรียนดำน้ำที่ดีที่สุดในโลกบนเว็บไซต์ Lonely Planet อีกด้วย เนื่องจากเกาะเต่านั้นมีจุดดำน้ำกว่า 20 จุดรอบเกาะ จึงมีแหล่งเรียนดำน้ำที่สามาถฝึกได้ทั้งการดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก และดำน้ำแบบฟรีไดฟ์ ข้อดีของเกาะเต่าสำหรับคนที่สนใจอยากดำน้ำนั่นคือเกาะเต่าสามารถดำน้ำได้ทั้งปีนั่นเอง
แต่ถ้าย้อนไปสัก 70 กว่าปีก่อน เกาะเต่านั้นเรียกว่าแตกต่างกับเกาะเต่าในปัจจุบันเป็นอย่างมากเลย เพราะเกาะเต่านั้นได้เป็นที่คุมขังนักโทษทางการเมืองในช่วงปี พ.ศ. 2486-2487 โดยภายหลังจากมีการอภัยโทษแล้ว เกาะเต่ากลายเป็นเกาะร้างอยู่ช่วงหนึ่งเลย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2490 ได้มีชาวบ้านเกาะสมุยชื่อ ‘ตาโอและตาเอื้อม’ ได้ล่องเรือมาเจอเกาะเต่าที่รกร้าง จึงได้เข้ามาอยู่อาศัยบนเกาะเต่า จนเรียกว่าสองคนนี้เป็นคนกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานอาศัยบนเกาะเต่านั่นเอง ภายหลังเริ่มมีคนจากเกาะต่าง ๆ เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน ได้เข้ามาอาศัยจนกลายเป็นชุมชนเล็ก ๆ มีอาชีพเกษตรกรรม หาเลี้ยงครอบครัวกันไป เกาะเต่านั้นได้เริ่มมีบทบาทเป็นแหล่งท่องเที่ยวเมื่อปี พ.ศ. 2520 โดยได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวได้ล่องเรือมาดำน้ำสำรวจธรรมชาติ ต่อมาเกาะเต่าจึงเริ่มได้รับความนิยมจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทยแห่งหนึ่งจนถึงปัจจุบัน
สำหรับใครที่กำลังมองหาทริปเที่ยวเกาะเต่าแบบครบครัน รวมที่พัก อาหาร เรือเฟอร์รี่ และทริปดำน้ำ สามารถดูรายละเอียดได้ที่รวมแพ็กเกจเที่ยวเกาะเต่ 3 วัน 2 คืน
ข้อมูลเที่ยวเกาะเต่า เดินทางจากกรุงเทพฯ
เดินทางด้วยเครื่องบิน
เดินทางด้วยเรือ
เดินทางด้วยรถไฟ
เดินทางด้วยเครื่องบิน
เดินทางด้วยเรือ
เดินทางด้วยรถไฟ
การเดินทางไปเกาะเต่า
เนื่องจากเกาะเต่าเป็นเกาะขนาดเล็ก เกาะเต่าจึงไม่มีสนามบินภายในเกาะ การเดินทางไปเกาะเต่าทำได้โดยนั่งเรือจากจังหวัดชุมพร หรือออกจากจังหวัดสุราษฎ์ธานี การไปเกาะเต่าที่สะดวกที่สุดคือ เดินทางจากกรุงเทพไปเกาะเต่าโดยไม่แวะค้างคืนที่ชุมพร สามารถซื้อแพคเกจรถบัส+เรือเฟอร์รี่ของบริษัทเรือเร็วลมพระยาได้รวดเดียวจบ ถึงเกาะเต่า สบายใจหายห่วง
เดินทางออกจากกรุงเทพฯ
🚌 เดินทางโดยรถบัส
วิธีสุดท้ายสำหรับการไปเกาะเต่าโดยออกจากชุมพรนี้เรียกว่าสะดวกสบายที่สุดค่ะ เพราะมีแพคเกจรถบัสจากกรุงเทพฯไปเกาะเต่าในราคา 1,250 บาทต่อท่านของบริษัทลมพระยา ที่ให้บริการการเดินทางตั้งแต่จากกรุงเทพฯ นั่งรถโดยสารมาชุมพร และต่อเรือไปยังเกาะเต่าเลย ข้อดีคือซื้อตั๋วครั้งเดียวจบเลย ไม่ต้องลุ้นเรื่องจะทันเรือหรือไม่ด้วย! รถออกจากถนนข้าวสารเวลา 21:00 น. ทุกวัน สามารถกดเพื่อจองบัตรรถบัส+เรือจากกรุงเทพฯไปเกาะเต่า
|
|||
|
|||
กรุงเทพฯ |
|
21:00 |
1250 บาท |
11 ชม. |
![]() |
||
ชุมพร |
8:00 |
||
ชุมพร |
|
8:00 |
|
|
![]() |
||
เกาะเต่า |
9:45 |
||
|
|||
เกาะเต่า |
|
10:15 |
|
1 ชม. 45 นาที |
|
||
ชุมพร |
11:45 |
||
ชุมพร |
|
11:45 |
|
8 ชม. 45 นาที |
|
||
กรุงเทพฯ |
20:30 |
เดินทางออกจากชุมพร
✈️ เดินทางด้วยเครื่องบิน
การเดินทางด้วยเครื่องบินมาลงที่สนามบินชุมพรนั้นเรียกว่าเป็นการเดินทางที่ใกล้เกาะเต่าที่สุดค่ะ การเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปชุมพรจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง การเดินทางด้วยเครื่องบินมีข้อจำกัดคือ มีเที่ยวบินเพียงวันละ 2 ไฟลท์ (ตารางอาจมีเปลี่ยนแปลง) เท่านั้น คือช่วงเช้าและบ่าย ซึ่งเวลาที่แนะนำคือช่วงบ่ายและแวะพักค้างคืนที่ตัวเมืองชุมพร 1 คืน ก่อนให้รถมารับจากที่พักไปส่งที่ท่าเรือในวันรุ่งขึ้น ตรวจสอบวันเรือออกและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บัตรเรือเฟอร์รี่ระหว่างชุมพร-เกาะเต่า
สายการบินที่มีเส้นทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปชุมพร
- นกแอร์
- ไทยแอร์เอเชีย
🛳 เดินทางโดยเรือ
เรือโดยสารที่ออกจากชุมพรไปเกาะเต่ามีให้เราเลือกหลากหลายประเภท และราคา โดยท่าเรือโดยสารจากชุมพรไปจะมีท่าเรือหลัก คือ ท่าเรือลมพระยา
- ท่าเรือลมพระยา เป็นท่าเรือที่ใช้เวลาเดินทางเร็วที่สุด เรือโดยสารคาตามารันของลมพระยานั้นไปเกาะเต่าจะใช้เวลาประมาณ 1.30-1.45 ชั่วโมง ส่วนเรือโดยสารประเภทอื่น ๆ เช่น เรือนอน จะใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง สามารถเช็คเที่ยวเรือและราคาได้ที่ บัตรเรือเฟอร์รี่จากชุมพรไปเกาะเต่า
|
|||
|
|||
ชุมพร |
|
6:00/ |
750 บาท |
1 ชม. |
![]() |
||
ชุมพร |
7:00/ |
||
ชุมพร |
|
7:00/ |
|
|
![]() |
||
เกาะเต่า |
9:45/ |
||
|
|||
เกาะเต่า |
|
10:15/ |
|
1 ชม. 30 นาที
|
|
||
ชุมพร |
11:45/ |
||
ชุมพร |
|
11:45/ |
|
1 ชม. |
|
||
ชุมพร |
12:45/ |
- ท่าเรือท่ายาง เรือโดยสารที่ออกจากท่าเรือท่ายางมีทั้งเรือนอนและเรือด่วน เรือนอนนั้นจะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง และเรือด่วนใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง เรือโดยสารที่ออกจากท่าเรือท่ายางนี้จะเป็นเรือของราชาเฟอร์รี่
หากใครอยากเดินทางโดยเรือนอน แนะนำว่าเผื่อเวลานิดนึง เนื่องจากเราต้องเดินทางไปถึงท่าเรือให้ทันรอบเรือออก หากพลาดไม่ทันเรือก็ต้องรอรอบต่อไปเลย เรือนอนนั้นอาจจะใช้เวลานานกว่าเรือด่วน แต่ว่าไม่ได้ลำบากอย่างที่คิดนะคะ เนื่องจากบนเรือนอนจะมีที่นอนให้เราได้งีบหลับกัน เรียกว่าพอถึงเกาะเต่าปุ๊บ ก็เฟรชทันทีเลย!
🚆 เดินทางด้วยรถไฟ
การเดินทางมาชุมพรด้วยรถไฟนั้นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่คนนิยม แนะนำให้โดยสารรถไฟด่วนขบวน 85 ที่ออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ รอบ 19:30 น. เนื่องจากเราจะมาถึงสถานีรถไฟชุมพรในเช้าวันต่อมาเวลาประมาณตีสี่ หลังจากถึงสถานนีรถไฟชุมพรก็สามารถนั่งรถต่อไปยังท่าเรือเฟอร์รี่เพื่อนั่งเรือรอบ 8:00 น. กดอ่านรายละเอียดและจองได้ที่ บัตรเรือเฟอร์รี่จากชุมพรไปเกาะเต่า จริง ๆ แล้วรถไฟจากกรุงเทพฯมาชุมพรนั้นมีหลายเวลา แต่ว่าแนะนำเป็นรถไฟขบวนด่วน เนื่องจากโอกาสจะพลาดเรือนั้นน้อยกว่ารถไฟขบวนธรรมดา
เดินทางออกจากสุราษฎร์ธานี
✈️ เดินทางด้วยเครื่องบิน
การเดินทางโดยเครื่องบินไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้นสามารถออกได้จาก 2 สนามบิน นั่นคือ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานีและท่าอากาศยานเกาะสมุย
ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี
สายการบินที่ให้บริการจากกรุงเทพฯไปสุราษฎ์ธานีนั้นมีหลายสายการบิน โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชม. หลังจากถึงสนามบินแล้วก็สามารถเดินทางต่าไปที่ท่าเรือได้เลย เรียกว่าเป็นการซื้อครั้งเดียวจบที่สะดวกสบายเลย บินมาลงที่ท่าอากาศยานสุราษฎ์ธานีแล้วต่อเรือข้ามฟากที่ท่าเรือตาปีจะเป็นวิธีที่ค่อนข้างได้รับความนิยม เนื่องจากประหยัดเวลาได้ดีที่สุด เพียงแค่ 30 นาทีจากสนามบินเอง สามารถเช็คราคาและรายละเอียดเที่ยวบินได้ที่นี่
- ไทยไลอ้อนแอร์
- ไทยแอร์เอเชีย
- ไทยเวียตเจ็ทแอร์
- นกแอร์
เดินทางออกจากเกาะสมุย/เกาะพะงัน ไปเกาะเต่า
อีกวิธีที่สามารถเดินทางไปเกาะเต่าได้นั่นคือ ซื้อตั๋วเครื่องบินมาลงที่เกาะสมุยและต่อเรือไปยังเกาะเต่าและเกาะพะงัน จากสมุยไปเกาะเต่าใช้เวลา 1.30 ชม. และจากเกาะพะงันไปเกาะเต่าใช้เวลา 30 นาทีเท่านั้น วิธีนี้จะค่อนข้างมีค่าใช้จ่ายแพงกว่าวิธีอื่น เนื่องจากสนามบินเกาะสมุยนั้นจะมีเพียงแค่สายการบินเดียวที่ให้บริการ คือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ แต่ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยว 3 เกาะในทริปเดียวให้จุใจ การเดินทางระหว่างเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า จะมีเรือโดยสารระหว่างเกาะให้บริการทุกวันและใช้เวลาเดินทางไม่นาน
หลังจากถึงสนามบินเกาะสมุยแล้ว เราสามารถนั่งเรือต่อไปยังเกาะเต่าได้จากหาดบางรักษ์ หากสนใจสามาถกดเพื่อจองบัตรโดยสารเรือเฟอร์รี่จากเกาะสมุยไปเกาะเต่า
|
|||
|
|||
เกาะเต่า |
|
9:30/ |
600 บาท |
1 ชม. 15 นาที
|
![]() |
||
เกาะพะงัน |
10:30/ |
||
|
|||
เกาะพะงัน |
|
8:30/ |
600 บาท |
1 ชม.
|
|
||
เกาะเต่า |
9:30/ |
|
|||
|
|||
เกาะสมุย |
|
8:00/ |
700 บาท |
2 ชม. 30 นาที
|
![]() |
||
เกาะเต่า |
9:30/ |
||
|
|||
เกาะเต่า |
|
9:30/ |
700 บาท |
2 ชม.
|
|
||
เกาะสมุย |
11:30/ |
🛳 เดินทางโดยเรือ
จากสุราษฎร์ธานีไปเกาะเต่ามีเรือโดยสารให้บริการอยู่ นั่นคือเรือของบริษัทลมพระยา และเรือบริษัทซีทรานดิสคัฟเวอรี่ ส่วนมากนั้นจะนิยมมาโดยเครื่องบินเพื่อลงที่สนามบินสุราษฎร์ฯ และต่อรถมาที่ท่าเรือแล้วนั่งเรือไปเกาะเต่า การเดินทางจากสนามบินสุราษฎร์ธานีไปเกาะเต่านั้นจะใช้เวลารวมประมาณ 5-8 ชั่วโมง จากสนามบินสุราษฎร์ธานีไปท่าเรือลมพระยา (ท่าเรือดอนสัก) ใช้เวลาประมาณ 60 นาที แล้วนั่งเรือไปเกาะเต่าใช้เวลา 3 ชม. หากสนใจสามารถกดเพื่อตรวจสอบเวลาเดินทางและจองบัตรเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือดอนสักไปเกาะสมุย
|
|||
|
|||
สุราษฎร์ธานี |
|
9:00 |
750 บาท |
2 ชม. |
![]() |
||
สุราษฎร์ธานี |
11:00 |
||
สุราษฎร์ธานี |
|
11:00 |
|
|
![]() |
||
เกาะเต่า |
14:15 |
||
|
|||
เกาะเต่า |
|
9:30 |
|
3 ชม. 15 นาที
|
|
||
สุราษฎร์ธานี |
12:45 |
||
สุราษฎร์ธานี |
|
12:45 |
|
1 ชม. 45 นาที |
|
||
สุราษฎร์ธานี |
14:30 |
*แนะนำว่าให้ตรวจสอบเวลาก่อนเดินทาง เพราะเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
🚆 เดินทางด้วยรถไฟ
เป็นอีกวิธีการเดินทางที่ไม่ค่อยนิยมนัก เป็นวิธีที่ค่อนข้างใช้เวลานาน ราคาแพงกว่าวิธีอื่น ต้องต่อรถและเรือ แต่หากใครอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆและมีเวลาวันหยุดหลายวัน อยากลองอะไรใหม่ ๆ ก็สามารถนั่งรถไฟชิล ๆ ได้ค่ะ โดยเราสามารถจองตั๋วรถและเรือ (รวมตั๋วรถรับจากสถานีรถไฟไปท่าเรือ) ระยะเวลาเดินทางจากสถานีรถไฟไปเกาะเต่าใช้เวลาประมาณ 7.30 ชม. แต่เนื่องจากเรืองดให้บริการจากสถานการณ์โควิด-19 หากสนใจสามารถตรวจสอบเวลาเดินทางอีกครั้ง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับวิธีการเดินทางไปเกาะเต่า เรียกว่าสามารถเดินทางได้หลากหลายวิธีเลยใช่มั้ยคะ แต่สุดท้ายแล้วทุกวิธีการเดินทางก็ต้องมาจบที่เรือข้ามฟากนั่นเองค่ะ เนื่องจากเกาะเต่าไม่มีสะพานข้าม ไม่มีสนามบิน และสถานีรถไฟ แต่ทุกคนอย่าเพิ่งเบื่อนะคะ บอกเลยว่าเกาะเต่านั้นคุ้มค่ากับการเดินทางไปเยือนแน่นอน! เรามาดูกันดีกว่าว่าเกาะเต่าน๊านนนนน.....มีอะไรดีและมีอะไรเด็ดที่เราต้องไปดูกันบ้าง! แต่ก่อนอื่นจะมาแนะนำเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับการเดินทางเที่ยวบนเกาะเต่า ว่าก่อนเราจะไปเที่ยวบนเกาะเต่าควรตรียมตัวยังไงบ้าง
ถึงเกาะเต่าจะเล็กแต่จุดเช็คอินเพียบ!
หลังจากเดินทางถึงเกาะเต่าแล้ว เราก็อยากจะมาแนะนำทิปเล็ก ๆ ว่าหากเราจะเที่ยวอ่าวหรือหาดต่าง ๆ บนเกาะ เราสามารถเดินทางด้วยการเช่ารถมอเตอร์ไซต์ในการเที่ยวรอบเกาะได้ เนื่องจากเกาะเต่านั้นมีเนื้อที่เพียงแค่ 21 ตารางกิโลเมตร ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซด์มีตามหาดต่าง ๆ เช่น หาดทรายรี อ่าวแม่หาดค่ะ ราคานั้นจะคิดเป็นราคาเช่าต่อวัน มีหลากหลายราคาขึ้นอยู่กับประเภทรถ ตั้งแต่ 150-300 บาท
เอาล่ะ! รถพร้อมแล้วก็ไปเที่ยวกันเล๊ยยยย!!! จุดห้ามพลาดของเกาะเต่าที่จะทำเราตกหลุม...รัก
1. หาดทรายรี
หาดทรายรีเป็นหาดที่ฮอตฮิตหาดหนึ่งของเกาะเต่าเลยค่ะ เนื่องจากตัวหาดนั้นทอดยาวเกือบ 2 กิโลเมตร เรียงรายไปด้วยร้านอาหาร โรงแรม ที่พักต่าง ๆ มากมาย หาดทรายรีเป็นหาดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่นพักผ่อนและนอนชิล ๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกที่สวยของเกาะเต่าอีกด้วย หาดทรายรีนั้นอยู่ไม่ไกลกับอ่าวแม่หาด เดินด้วยเท้าเพียงแค่ 10 นาทีเอง
2. อ่าวเทียนออก (Shark Bay)
อ่าวเทียนออกเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ควรไปในเกาะเต่า! เป็นจุดดำน้ำยอดนิยมของเหล่านักดำน้ำเลย เพราะบริเวณนี้สามารถดำน้ำดูสภาพแวดล้อมใต้น้ำของเกาะเต่าได้นั่นเอง และมีโอกาสเจอกับฉลามด้วยนะคะ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะฉลามที่เราจะเจอนั้นคือฉลามครีบดำ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ดุร้าย เนื่องจากอ่าวเทียนนอกนั้นเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจึงต้องนั่งเรือพาเที่ยวรอบเกาะค่ะ อ่าวเทียนนอกนั้นแม้แนวปะการังจะไม่สวยงามเท่าหาดอื่น ๆ เพราะแนวปะการังได้ตายจากปรากฏการณ์เอลนีโญเมื่อปี พ.ศ. 2541 แต่ว่าเป็นจุดดำน้ำที่มีโอกาสจ๊ะเอ๋กับน้องเต่าทะเลและน้องฉลามได้ดีสุดเลยล่ะค่ะ
3. อ่าวแม่หาด
อีกจุดดำน้ำตื้นที่นิยมไปดำน้ำกัน นั่นก็คือ ‘อ่าวแม่หาด’ นั่นเองงงง บริเวณอ่าวแม่หาดจะมีซากเรือขนมะพร้าวที่จมเมื่อตอนปี พ.ศ. 2505 ค่ะ ผ่านเวลาหลายสิบปีซากเรือลำนี้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของปลามากมายหลายสายพันธุ์ เช่น ปลากล้วย ปลาสร้อยนกเขา ปลากระเบนจุดฟ้า และปลาอื่น ๆ อีกมากมายที่รอให้เราไปป๊ะพบหน้า! โดยอ่าวแม่หาดนั้นเรียกว่าเป็นอ่าวหลักของเกาะเต่าเหมือนหาดทรายรีค่ะ ดังนั้นจึงเดินทางไปไม่ยากเลย ขับมอเตอร์ไซด์เช่าคู่ใจไม่นานก็ถึงแล้ว!
4. ดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกรอบเกาะเต่า
การดำน้ำที่เกาะเต่านั้นเรียกว่าเป็นกิจกรรมที่ ‘ไม่ทำไม่ได้’ สำหรับคนรักทะเลเลยค่ะ เกาะเต่านั้นขึ้นชื่อว่าเป็นจุดดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกที่สวยติดอันดับโลก ดังนั้นเราจึงมาแนะนำสถานที่ที่นักดำน้ำตื้นและลึกทั้งหลายต้องไปตามกันค่ะ! จุดดำน้ำตื้นของเกาะเต่าที่เราต้องไปนั้นจะมีบริเวณอ่าวม่วง อ่าวหินวง อ่าวโตนดและอ่าวลึกค่ะ เราจะเห็นความสมบูรณ์ของท้องทะเลฝั่งอ่าวไทยด้วยการที่จะพบเจอกับสัตว์น้ำอย่างมากมายหลายสายพันธุ์เลยล่ะค่ะ เช่น ปลานกแก้ว ปลาเทวดา ปลาวัวหรือกระเบนจุดฟ้า รวมทั้งบางจุดอาจจะเจอฉลามครีบดำและเต่าทะเลอีกด้วย ทุกคนต้องไปลองดำน้ำตื้นรอบเกาะเต่านะคะ! หากใครว่ายน้ำไม่เป็นหรือไม่แข็งก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะเพียงแค่มีหน้ากากดำน้ำ เสื้อชูชีพ ก็สามารถเห็นเหล่าน้อนๆใต้ทะเลได้แล๊ววว!! โดยการดำน้ำตื้นรอบเกาะเต่านั้นเราสามรถติดต่อซื้อทัวร์ล่วงหน้าได้ค่ะ กระซิบเลยว่าราคาไม่แพงอย่างที่คิดเลยค่ะ
กดเพื่ออ่านรายละเอียดและจอง ทัวร์ดำน้ำตื้นในเกาะเต่าแบบเต็มวัน
สำหรับคนรักการดำน้ำและชอบความท้าทาย การดำน้ำลึกก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาด จะเป็นการเรียนตัวต่อตัวกับครูสอนดำน้ำที่ได้ใบอนุญาตในการสอนจากสถาบัน PADI ที่เป็นที่ยอมรับระดับโลก จะใช้เวลาเรียนด้วยกัน 4 วัน สองวันสำหรับการเรียนรู้ภาคทฤษฎีและอีกสองวันเป็นการลงไปดำน้ำที่ทะเลในระดับความลึก 12 และ 18 เมตร (สำหรับการเรียนดำน้ำแบบ Open Water Diver - หลักสูตรดำน้ำที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก) เราคงหาโอกาสที่จะเห็นแนวปะการังและความสมบูรณ์ของใต้ท้องทะเลแบบใกล้ๆแบบนี้จากที่ไหนไม่ได้แล้ว จุดดำน้ำของเกาะเต่านั้นมี 5 จุดอยู่รอบ ๆ เกาะ ได้แก่ กองหินขาว (White Rock), กองหินนางยวนหรือกองหินแดง (Red Rock), กองหินเขียว (Green Rock), เจแปนนิสการ์ดเด้นส์ (Japanese Gardens) และกองหินทวิน (Twin Peaks) บริเวณนี้เรายังมีโอกาสเจอกับน้องฉลามวาฬด้วยล่ะ นอกจากนี้ยังมีฝูงปลาทะเลขนาดใหญ่ เช่น ฝูงปลากล้วยฟ้า กระเบนราหู ปลาไหลมอเร่ย์ รวมทั้งจะเจอกับสวนปะการังสายพันธุ์ต่าง ๆ อีกมากมาย การดำน้ำลึกรอบเกาะเต่านั้น สามารถตอดต่อซื้อทัวร์ล่วงหน้าได้ กระซิบว่าราคาไม่แพงอย่างที่คิด
หากใครสนใจเรียนดำน้ำลึกในขณะที่มาเที่ยวเกาะเต่า ใช้เวลาเพียง 4 วันก็สามารถจบหลักสูตร Open Water Diver และดำน้ำลึกได้เลย อีกทั้งมีให้เราเลือกอย่างมากมาย อาทิ เช่น
- Ban's Diving Resort
- Big Blue Diving Resort
- Coral Grand Divers & Resort
- IDC Koh Tao
5. หาดตาโต๊ะกลาง (Freedom Beach)
หาดฟรีด้อมนั้นเป็นอีกหาดที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมาเวลามาเยือนเกาะเต่า เนื่องจากเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม โดยเรานั้นสามารถมองเห็นหินตาโต๊ะกลาง เป็นหาดเล็กๆที่ค่อนข้างเงียบสงบเหมาะสำหรับการมานอนพักผ่อนชิล ๆ โดยเราสามารถมองเห็นหินตาโต๊ะที่อยู่ตรงปลายแหลมได้อีกด้วย นอกจากนี้เรายังดำน้ำตื้นจากหน้าหาดได้อีก ฟินและชิลฝุด ๆ หาดฟรีด้อมบีชแห่งนี้นั้นเราจะมีโอกาสเจอกับน้อนปลาเป็นฝูง ๆ เลย
6. การเรียน Free Diving ที่เกาะเต่า
หลายคนคงน่าจะเคยเห็นภาพคนถ่ายรูปใต้น้ำแบบที่ไม่มีถังออกซิเจน มีเพียงฟินและหน้ากากที่กำลังว่ายน้ำด้วยท่วงท่าถ่ายรูปสวยงาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่ากว่าจะออกมาเป็นรูปที่เราได้เห็นกันนั้น ต้องผ่านการเรียนรู้การฝึกหัดควบคุมการหายใจใต้น้ำ การทำสมาธิและการเคลื่อนตัวใต้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ร่างกายคนเราสามารถอยู่ใต้น้ำได้นานขึ้น เกาะเต่าเป็นสถานที่ยอดนิยมที่คนมักจะมาเรียนดำน้ำแบบ free diving กันเนื่องจากเป็นเกาะที่น้ำอุ่น ใสและนิ่ง โดยที่เราสามารถเลือกเรียนได้ตั้งแต่หลักสูตรเบื้องต้นไปจนถึงระดับมืออาชีพ โดยใช้เวลาเรียนเพียงแค่ 2-3 วัน (คอร์สเรียนแบบ level 1)โดยที่เราสามารถลงไปดำน้ำที่ระดับความลึกสูงสุดตั้งแต่ 16-20 เมตร
7. ถ่ายภาพจุดชมวิวมองเห็นทะเลแหวกที่เกาะนางยวน
เกาะเล็ก ๆ ใกล้เกาะเต่า นั่งเรือเพียงแค่ 15-20 นาที หากใครไปเที่ยวเกาะเต่าแล้วก็ต้องไปเกาะนางยวนด้วย จุดเด่นที่มีชื่อเสียงของเกาะนางยวน คือ ขึ้นไปชมวิวทะเลแหวกแบบ Unseen ที่จุดชมวิวนั่นเอง (สามารถเดินขึ้นไปตามทางเพียงแค่ 15-20 นาทีก็ถึงจุดชมวิวแล้ว) หากใครอยากพักค้างคืนที่เกาะนางยวนก็มีที่พักเพียง 1 รีสอร์ท นั่นคือ นางยวน ไอซ์แลนด์ ไดฟ์ รีสอร์ท กฎสำคัญที่ทุกครต้องปฏิบัติตามยามไปเยือนเกาะนางยวน นั่นคือ ห้ามนำพลาสติกใด ๆ ขึ้นเกาะ ดังนั้นอย่าลืมพกกระติกน้ำเล็ก ๆ มาด้วยนะ กิจกรรมที่นอกเหนือจากเดินไปชมวิวทะเลแหวกแล้ว เรายังสามารถดำน้ำตื้นจากหน้าหาดได้อีกด้วย มีทั้งปะการังอ่อนและปะการังแข็ง รวมทั้งปลามากมายหลายชนิดให้เราได้ชมกันอย่างอิ่มอกอิ่มใจเลย
8. เรียนทำอาหารไทยและเล่นโยคะ
เรียนทำอาหารไทยและเล่นโยคะท่ามกลางบรรยากาศริมทะเลสุดชิล กิจกรรมนี้เหมาะสำหรับคนที่พาเด็ก ๆ หรือพาครอบครัวไปเที่ยวแล้วกำลังมองหากิจกรรมสั้น ๆ ทำแก้เบื่อระหว่างพักผ่อนค่ะ กิจกรรมสองอย่างนี้เป็นกิจกรรมยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชอบทำอย่างมากเลยค่ะ เนื่องจากอย่างที่เรารู้กันว่าอาหารไทยนั้นเป็นอาหารที่อร่อยและถูกใจชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ทำให้หลาย ๆ คนอยากมาลองทำอาหารไทยด้วยฝีมือตัวเองนั่นเอง หากใครสนใจอยากลองมีประสบการณ์ใหม่ๆ สามารถเช็ครายละเอียดด้านล่างได้เลยนะคะ
- คลาสทำอาหารที่ Thai Cooking with Joy (Facebook Page)
- คลาสเรียนโยคะ Shambala Koh Tao
9. สนุกสุดมันส์กับกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมทางน้ำและบนบก
กิจกรรมสำหรับคนรักความผจญภัย มาเกาะเต่าไม่ลงทะเลไม่เปียกน้ำก็ดูแปลก ๆ ใช่ไหมล่ะ เกาะเต่านั้นเป็นเกาะที่ตอบโจทย์คนรักการทำกิจกรรมที่ท้าทายและเรียกเหงื่ออย่างมากมายให้เราได้ลองกัน เช่น นั่งบนบอร์ดชิล ๆ กับ Kneeboard ไต่ระดับความเสียวกับ Wakeboard ดิ่งลงทะเลกับ Subflying ที่หาเล่นได้ที่นี่ที่เดียวในไทย
มาต่อกับสายแอดเวนเจอร์สุดหวาดเสียว แต่เปลี่ยนมาทำกิจกรรมบนบกกันบ้าง! กิจกรรมสายลุยบนบกที่ห้ามพลาดบนเกาะเต่า คือ พิชิตเขาเกาะเต่า และเดินป่าสำรวจเกาะ ลองลิ้มรสความท้าทายและพร้อมฟิตร่างกายเพื่อพิชิตความสูงของผาต่าง ๆ รอบเกาะเต่ากัน เกาะเต่ามีผาหินแกรนิตจำนวนมากที่รอพวกเราไปปีนเพื่อทดสอบความท้าทายและเป็นการรีดสารอะดรีนาลีนอีกด้วย การปีนผานั้นมีหลากหลายระดับหลายเส้นทางให้เราได้เลือกกัน ขึ้นอยู่กับทักษะและประสบการณ์ของแต่ละคน โดยมีถึง 20 เส้นทาง ตั้งแต่การปีนหินก้อนใหญ่ในป่าไปจนถึงปีนที่เส้นทางริมทะเล ใครไม่เคยมีประสบการณ์การปีนผามาก่อนก็ไม่ต้องกลัว เพราะมีครูสอนที่มีประสบการณ์มากมายคอยดูแลตลอด
10. พาย Paddle Board
ชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเล เรียกว่าเป็นกิจกรรมที่กำลังมาแรงสุดขีดสำหรับสาว ๆ ที่ชอบถ่ายรูป นั่นคือ การชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเลโดยโพสต์ท่าเก๋ ๆ เท่ห์ ๆ บน Paddle Board นั่นเอง เห็นได้จากอินสตาแกรมของดาราชื่อดังหลายคน เวลาไปเที่ยวเกาะต่าง ๆ ก็มักจะถ่ายรูปบน Paddle Board ด้วยท่าสวยๆอยู่เสมอ เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ที่นอกเหนือจากการดูพระอาทิตย์ตกแบบเดิม ๆ บอกเลยว่าลงรูปคู่ Paddle Board ปุ๊บเรียกยอดไลก์บนโซเชียลได้แบบถล่มทลายแน่ ๆ
เป็นไงกันบ้างคะทุกคน เกาะเต่าแม้จะเล็กแต่ของเด็ดเพียบเลยใช่มั้ยล๊า!! มีกิจกรรมให้ทำแบบทุกแนวเลยตั้งแต่ดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก เดินชิล ๆ ริมหาด ทานอาหาร จิบไวน์ริมหาด รวมทั้งสายคนรักกิจกรรมแอดเวนเจอร์ก็มีปีนผาหรือสายลุยชอบความท้าทายในน้ำก็มี Kitesurf หรือ Kneeboard ให้ได้ไปเรียกเหงื่อกันได้อีก! ทีนี้ก็เตรียมตัวเตรียมใจแบกเป้ จัดกระเป๋าเตรียมพร้อมไปเยือนเกาะเต่ากันเล๊ยยยย!
อัพเดทล่าสุด ก.ค. 2565