ตรัง เป็นจุดหมายปลายทางที่น้อยคนนักจะนึกถึงเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆใกล้เคียงอย่างกระบี่หรือภูเก็ต แต่จังหวัดเล็กๆติดทะเลอันดามันแห่งนี้มีที่เที่ยวน่าค้นหาแบบ Unseen ที่เราต้องมาลองสัมผัสครั้งนึงในชีวิตให้ได้ เพราะมีธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรมท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ และอาหารขึ้นชื่อมากมายที่ผสมผสานความเป็นปักษ์ใต้และจีนได้อย่างลงตัว ใครกำลังมองหาจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ลองเลือกตรังเป็นสถานที่ต่อไป แล้วคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการไปเที่ยวตรังคือปลายตุลาคมถึงปลายเมษายน
การเดินทางไปตรัง
✈️ เดินทางด้วยเครื่องบิน
มีเที่ยวบินจากท่าอากาศยานดอนเมืองไปตรังทุกวัน โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. 30 นาที
สายการบินที่ให้บริการ ได้แก่
- ไทยไลอ้อนแอร์
- ไทยแอร์เอเชีย
- นกแอร์
- ไทยเวียตเจ็ทแอร์
🚌 เดินทางโดยรถบัส
จากกรงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชม. ซึ่งมีบริษัทรถบัสให้บริการอยู่หลายบริษัท เช่น
- Sri Suthep Tour Ltd.,
โทร 02-894-6167,02-894-6166 - Shup Pisarn Tour Ltd.,
โทร. 0-28946040-1 - Khonsong 999 Ltd.,
โทร 02-422-4444
🚆 เดินทางด้วยรถไฟ
ออกจากกรุงเทพฯ มีขบวนรถไฟออกจากสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ทุกวัน วันละ 2 ขบวน ได้แก่ ขบวน 83 และ 167 ซึ่งเป็นขบวนรถตู้นอน ออกเดินทางในช่วงเย็นและถึงตรังในช่วงเช้า
ที่เที่ยวห้ามพลาดในตรัง
1. ชิมติ่มซำเมืองตรัง
ตรังเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีชุมชนชาวจีนอาศัยอยู่จำนวนมากมานานกว่า 200 ปี เราสามารถเห็นอาคารสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีสแบบเดียวกับในเมืองภูเก็ตได้เช่นกัน และนอกจากนี้ตรังยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารท้องถิ่นที่ห้ามพลาดนั้นคือติ่มซำ ซึ่งในตรังมีร้านเด็ดน่าลองให้เลือกหลายร้าน
2. ถ้ำเลเขากอบ
Unseen Thailand ที่ห้ามพลาดกับประสบการณ์ล่องเรือในถ้ำ ซึ่งทุกคนต้องนอนราบลอดผ่านเพดานถ้ำอันคับแคบเสมือนลอดผ่านท้องมังกร
3. สถานีรถไฟกันตัง
สถานีรถไฟปลายทางของทางรถไฟสายใต้ฝั่งอันดามัน สร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 เป็นสถานีขนาดเล็กแต่มีความโดดเด่นด้วยตัวอาคารไม้สีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาลชั้นเดียวทรงปั้นหยา ประดับด้วยมุขเสา มีความเป็นเอกลักษณ์เหมาะแก่การถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึก
4. ถ้ำมรกต
สถานที่สุดลึกลับที่เราต้องว่ายน้ำลอดถ้ำความยาวกว่า 80 เมตร เพื่อชมความงามของชายหาดที่ซ่อนอยู่ด้านใน น้ำทะเลสีเขียวมรกต รายล้อมไปด้วยหน้าผาสูงชันเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง
5. เกาะมุก
เกาะใหญ่อันดับ 3 ในตรัง มีแบ่งเป็น 2 ส่วน ฝั่งตะวันออกจะเป็นชุมชนของคนท้องถิ่นและรีสอร์ท ซึ่งสามารถค้างคืนได้ เหมาะสำหรับคนที่รักความสงบ ส่วนฝั่งตะวันตกเป็นพื้นที่ธรรมชาติไม่มีคนอาศัยอยู่
6. เกาะกระดาน
จุดหมายสำหรับคู่รักที่เราคงเคยได้ยินถึงการแต่งงานใต้น้ำที่จัดพิธีอยู่ในบริเวณเกาะกระดานแห่งนี้ นอกจากนี้บนเกาะยังมีความสวยงามของชายหาดทรายขาวและทะเลสีคราม
7. เกาะลิบง
เกาะที่ใหญ่ที่สุดในตรัง เป็นแหล่งหญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารของพะยูนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศด้วย และแน่นอนว่าไฮไลท์ของที่นี่คือการชมพะยูน สัตว์ที่นับวันยิ่งหายากในธรรมชาติและคู่ควรแก่การอนุรักษ์ที่สุด
8. เขาจมป่า
จุดชมวิวลับที่จะได้เห็นป่าโกงกางอันเขียวชอุ่มสุดลูกหูลูกตาจนเห็นเกาะกลางทะเลได้เลย การเดินทางไปนั้นค่อนข้างแอดเวนเจอร์ เพราะต้องเช่าเรือท้องถิ่นผ่านป่าอันหนาทึบและปีนขึ้นยอดเขาเพื่อให้เห็นวิวอันน่าทึ่งนี้
อัพเดทล่าสุด ก.พ. 2566