One day trip with อยุธยา

วันหยุด ไปเที่ยวที่ไหนดี เราชวนไปเช็คอินกันแบบง่ายๆ ภายใน 1 วัน ใช้เวลาเดินทางไม่นาน กับเที่ยวอยุธยา!!!!  เที่ยวใกล้กรุงเทพ ไปเช้า เย็นกลับ วันเดียวก็เที่ยวได้ แถมครบรสมากๆ เพราะมีทั้งวัดสวย โบราณสถาน  สถาปัตยกรรม และอื่นๆ เอาล่ะค่ะ ตามพวกเรามาดูว่า อยุธยา เที่ยวไหนดี 

มาอยุธยา เราแต่งตัวให้เข้ากับสถานที่กันดีกว่า!!

มีร้านให้เลือกกันมาก แต่พวกเลือกเป็นสองร้านนี้ค่ะ ที่จะแปลงโฉมของเราให้เข้ากับอยุธยา สวย ผ่อง สง่า มีหลากหลายชุดมากมาย ราคาไม่แพง ราคาเริ่มต้นเพียง 200 บาท แต่งหน้า 50 บาท ทำผม 50 บาท   ไม่ต้องเตรียมตัวมาก็สวยแบบไทยๆได้ ที่นี่มีพร้อมทำให้หมด สวยครบ จบในที่เดียว ที่อยุธยา

ชุดที่เราเลือกสองร้านนี้อยู่ที่ 200 บาท นะคะ ราคานี้รวมเครื่องประดับต่างๆแล้ว และถ้าเราอยากทำผม ต้องเพิ่มค่าทำผมอีก 50 บาท และราคาแต่งหน้าอยู่ที่ 50 บาทเหมือนกันค่ะ ทางร้านมีพรอพต่างๆให้เลือกเยอะมากเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า ร่ม หรือดาบ สามารถยืมออกไปถ่ายรูปข้างนอกร้านได้เลยนะคะ พี่ๆที่ร้านบริการเป็นกันเองมากๆ ช่วยเลือกชุด เลือกเครื่องประดับ และพรอพต่างๆ ให้เข้ากับชุดที่เราเลือกใส่ และที่สำคัญราคานี้คือเช่าได้ทั้งวัน มาคืนชุดก่อนเวลาร้านปิดก็พอค่ะ

แนะนำเพิ่มเติม : ถ้าใครจะไปถ่ายรูปชุดไทยแบบเราแนะนำว่าให้เตรียมใส่เกาะอกกับกางเกงซับในไปจะดีมากๆ จะได้สะดวกในการแต่งตัวค่ะ

วัดไชยวัฒนาราม เป็นโบราณสถานเก่าแก่ซึ่งตั้งอยู่ใน อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นในสมัย พระเจ้าปราสาททอง เมื่อปี พ.ศ.2173 เป็นวัดหลวงที่มีความสำคัญมากๆ เพราะเป็นวัดที่ใช้สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศลของพระมหากษัตริย์สืบต่อมาหลังจากนั้นทุกพระองค์ และยังเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระศพพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ด้วย 

ประวัติ : วัดไชยวัฒนาราม ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2173 โดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นบนที่ที่เป็นบ้านเดิมของพระองค์เพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายพระราชมารดา แต่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือนครละแวกโดยจำลองแบบมาจากปราสาทนครวัดไชยวัฒนารามเป็นวัดหลวงที่บำเพ็ญพระราชกุศลของพระมหากษัตริย์สืบต่อมาหลังจากนั้นทุกพระองค์ จึงได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกรัชสมัย เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระบรมวงศานุวงศ์เกือบทุกพระองค์  สมเด็จ-พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศสวรรคตก็ได้ถวายพระเพลิงที่วัดนี้ ก่อนกรุงแตก พ.ศ. 2310 วัดไชยวัฒนารามถูกแปลงเป็นค่ายตั้งรับศึก หลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง วัดไชยวัฒนารามได้ถูกปล่อยทิ้งให้ร้างเรื่อยมา บางครั้งมีผู้ร้ายเข้าไปลักลอบขุดหาสมบัติ เศียรพระพุทธรูปถูกตัดขโมย มีการรื้ออิฐที่พระอุโบสถ และกำแพงวัดไปขาย แต่ในปี พ.ศ. 2530 กรมศิลปกรณ์จึงได้เข้ามาอนุรักษ์จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2535

ปรางค์ประธาน ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของพื้นที่ ฐานประทักษิณ ซึ่งฐานประทักษิณได้ยกสูงขึ้นมา จากพื้น มีลักษณะเป็นปรางค์ จัตุรมุข ในส่วน ของมุขด้านตะวันออก จะเจาะมุขทะลุเข้าสู่เรือนธาตุ ซึ่งภายในจะประดิษฐาน พระพุทธรูปนั่ง (ปัจจุบันไม่พบแล้ว) ยอดขององค์ปรางค์ ทำเป็นรัดประคดซ้อนกัน 7 ชั้นแต่ละชั้น เป็นลวดลาย ใบขนุน กลีบขนุน ส่วนบนสุดเป็นทรงดอกบัวตูม ปรางค์แบบนี้มีลักษณะเหมือน ปรางค์ในสมัย อยุธยาตอนต้น ซึ่ง วัดไชยวัฒนารามนั้น สร้างในสมัยอยุธยาตอนกลาง จึงอาจกล่าวได้ว่าเป็นการนำเอาพระปรางค์ที่นิยมสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้นมาก่อสร้างอีกครั้ง 

ปรางค์บริวาร คือปรางค์องค์เล็กลงมาที่อยู่รายล้อม ปรางค์ประธาน มีทั้งหมด 4 องค์ลักษณะจะเพรียวกว่า ปรางค์ ประธานเมรุ คืออาคารทรงยอด แหลมที่อยู่รายรอบระเบียงคด ทั้ง 8 ทิศ ภายในคูหาจะประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่อง ปางมารวิชัย เอาไว้ที่เมรุทิศ     เมรุละ 1 องค์ เมรุมุม เมรุละ 2องค์ภายในคูหา มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง หลงเหลือร่องรอยอยู่เล็กน้อย

ระเบียงคด คือส่วนที่เชื่อมต่อ ระหว่างเมรุแต่ละเมรุเอาไว้ โดยรอบฐานประทักษิณซึ่งแต่เดิมจะมีหลังคารอบๆ ที่บริเวณระเบียงคดนี้ จะมีพระพุทธรูป ปางมารวิชัยประดิษฐานอยู่ รวมทั้งหมด 120 องค์ แกนในทำจากไม้ พอกปูนทีละชั้นจนได้สัดส่วนส่วนนิ้ว ใช้โลหะสำริด     ดัดขึ้นรูป ปัจจุบันเหลือที่ยังมีพระเศียร อยู่ 2 องค์

พระอุโบสถ พระอุโบสถ สร้างอยู่ทางด้านหน้ากำแพงเมรุทิศเมรุราย นอกระเบียงคด ปัจจุบันเหลือแต่ฐาน ข้างๆมีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง มีกำแพงล้อมรอบโบราณสถานสำคัญแหล่านี้ถึง 3 ชั้น และ มีปรางค์เจดีย์ขนาดย่อมอีกจำนวนหนึ่งซึ่งสร้างเพิ่มในภายหลัง

เรือนมยุรา MAYURA’HOUSE

ร้านกาแฟ เปิดให้บริการ เวลา 07.30 – 20.00 

 กาแฟ ขนม ราคาน่ารักมาก!!! มีทั้งด้านใน และด้านนอก 

วิววัดช่วงเช้าได้บรรยากาศดี ตอนเย็นแสงสวย ถ้ามาเที่ยววัดไชยวัฒนนาราม แวะดื่มกาแฟ ร้านนี้ได้ค่ะ

เครื่องดื่มราคาไม่แพง แถมอร่อย ราคาเริ่มต้นที่ 80-100 บาท มีหลากหลายเมนูให้เลือกดื่ม ขนมอบอร่อยๆ        เชิญมาลองกินกันนะคะ 

Wat Chaiwattanaram, ตำบล บ้านป้อม อำเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000

วัดใหญ่ชัยมงคล

มาเที่ยวอยุธยาทั้งทีก็ห้ามพลาดที่จะแวะมาที วัดใหญ่ชัยมงคล ที่รวมสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์เอาไว้มากมาย สามารถเข้าชมได้ฟรี ใครเป็นสายบุญ ก็สามารถลองแวะเข้ามากันได้ความโดดเด่นที่เราชอบก็คือ พระนอน ซึ่งเป็นพระที่ประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดของคนท่เกิดวันอังคารถ้าใครมีเวลาหรือมีโอกาสก็สามารถที่จะลองเข้าแวะชมกันได้ค่ะ

   วัดใหญ่ชัยมงคล ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัดสวยอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอยุธยาเลยก็ว่าได้ค่ะ โดยสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น คือในรัชสมัยของ สมเด็จพระรามาธิปดีที่ 1 หรือ พระเจ้าอู่ทอง จุดที่สนใจของวัดใหญ่ชัยมงคลนี้ คือเรื่องราวทางประวัติศาตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา     รวมไปถึงสถาปัตยกรรมที่งดงามมากๆ สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น  รัชสมัยของ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือ สมเด็จ-พระเจ้าอู่ทอง พระมหากษัตริย์ผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ในปี พ.ศ. 1900 เดิมมีชื่อว่า วัดป่าแก้ว   ได้รับการขนานนามว่า “วัดใหญ่ชัยมงคล” ในรัชสมัย ของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้รับการบูรณะเรื่อยมา และเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 วัดใหญ่ชัยมงคลจึงถูกทิ้งร้าง ซึ่งต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์จึงมีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดขึ้นใหม่ค่ะ

จุดเด่นของวัดใหญ่ก็คือ พระเจดีย์ชัยมงคล สันนิษฐานว่ามีการสร้างขึ้นในสมัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งทรงมีชัยในสงครามยุทธหัตถี เพื่อเฉลิมพระเกียรติยศของพระองค์ที่ได้ชัยชนะพระมหาอุปราชแห่งพม่า และพระราชทานนามว่า “เจดีย์ชัยมงคล” ในปี พ.ศ. 2135 แต่ประชาชนส่วนใหญ่เรียกว่า “พระเจดีย์ใหญ่” จึงทำให้เชื่อว่า นี่เป็นที่มาของชื่อคือ “วัดใหญ่ชัยมงคล” นั่นเอง

 โดยตามข้อมูลประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าการสร้างพระเจดีย์นั้น อาจสร้างเสริมพระเจดีย์เดิมที่มีอยู่ หรืออาจสร้างใหม่ทั้งองค์ก็ได้ ไม่มีหลักฐานแน่นอน บริเวณโดยรอบพระเจดีย์ชัยมงคลมีพระพุทธรูปเรียงราย ประดิษฐานอยู่งดงาม และพระเจดีย์ชัยมงคลนี้ มีความสูง 1 เส้น 1 วา ทำให้ที่นี่เป็นเจดีย์ที่สูงที่สุด ในอยุธยามาจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ

 โดยตามข้อมูลประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าการสร้างพระเจดีย์นั้น อาจสร้างเสริมพระเจดีย์เดิมที่มีอยู่ หรืออาจสร้างใหม่ทั้งองค์ก็ได้ ไม่มีหลักฐานแน่นอน บริเวณโดยรอบพระเจดีย์ชัยมงคล มีพระพุทธรูปเรียงราย ประดิษฐานอยู่งดงาม และพระเจดีย์ชัยมงคลนี้ มีความสูง 1 เส้น 1 วา ทำให้ที่นี่เป็นเจดีย์ที่สูงที่สุด ในอยุธยามาจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ

ที่นี่ยังมี พระพุทธไสยาสน์ ให้ได้ไปสักการะ สำหรับใครที่มาไหว้พระ ทำบุญแล้ว เราแนะนำให้ไปสักการะ รูปหล่อขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก่อนกลับบ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ

40 หลวงพ่อขาว ซ. 3 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000

ก๋วยเตี๋ยวเรือห้อยขาอยุธยา

เข้าวัดแล้ว อิ่มอกอิ่มใจกันแล้ว อย่าพลาดที่จะอิ่มท้อง เรามีร้านก๋วยเตี๋ยวเรือมาแนะนำร้านนี้มีเอกลักษณ์ เพราะว่าที่นั่งของร้านจะเจาะช่องให้ห้อยขาได้ทุกโต๊ะที่นั่ง นั่งทานก๋วยเตี๊ยวเรือไปและยังได้นั่งดูแม่น้ำ ล่องเรือ บรยากาศดี ลมเย็นๆ นั่งห้อยขาสบายๆ ก๋วยเตี๋ยวมีทั้งหมูและเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อโคขุนริบอาย เริ่มต้นที่  55 บาท กับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในตัวเมืองอยุธยา มีทั้งเนื้อริบอายและเนื้อโคขุน รสชาติก๋วยเตี๋ยวยังอร่อยอีกด้วย!!! 

เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับการเที่ยวอยุธยากับพวกเรา นอกจากได้เที่ยวแล้ว เรายังได้รู้ประวัติความเป็นมาของสถานที่นั้นๆ ได้ชื่นชมสถาปัตยกรรมกรรมของไทยว่าสวยงามมากไม่แพ้ชาติใดในโลก นอกจากเข้าวัดทำบุญแล้วเรายังมีคาเฟ่มาแนะนำนั่งดื่มกาแฟ ทานขนม และ ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือห้อยขา ที่ไม่ได้มีแค่ก๋วยเตี๋ยวแต่ยังมีเมนูอื่นๆอีกมากมายและที่สำคัญราคาเข้าถึงง่าย สำหรับใครที่มีเวลาว่างแต่ไม่รู้จะไปไหนที่ใกล้ๆกรุงเทพ เชิญชวนให้ไปที่อยุธยาเดินทางไม่นานแถมได้ชื่นชมโบราณสถานของไทยอีกด้วยค่ะ หวังว่าจะชอบเหมือนพวกเรานะคะ