House of Benedict Pattaya

“House of Benedict Pattaya หรือ นารีแดงบาร์” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ในเมืองพัทยา ที่น่าไปสักครั้งในการเดินทา

หากพูดถึงพัทยา นอกจากวิวทะเลก็คงหนีไม่พ้นคาเฟ่ต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมายภายในเมืองนี้ แต่สถานที่ฮิตและกำลังเป็นกระแสในโลกโซเชียล สถานที่ที่เหมือนดินแดนแห่งจินตนาการ ด้วยความสวยงามแปลกตา ที่ทำให้ทุกคนที่ไปเยือนรู้สึกแปลกตาแปลกใจไม่เหมือนที่ใดมาก่อน ราวกับได้หลุดออกไปสู่โลกในเทพนิยายเลยก็ว่าได้ ดังคำนิยามของสถานที่นี้ที่ว่า

The newest landmark in Pattaya, “HOUSE OF BENEDICT PATTAYA”,

the place that free your mind, flow

โดยความเป็นมาของร้านนี้เกิดจาก คอนเซ็ปต์สไตล์บาร์ เมนูเครื่องดื่มแปลกใหม่ โดนใจทุกกลุ่มอายุ นางสาวเสาวณีย์ กาญจนโอฬารศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Make A Whiz จำกัด เปิดเผยว่า “ ด้วยภาพรวมตลาดคาเฟ่ฟื้นตัว นักท่องเที่ยวเริ่มคึกคักหลังสถานการณ์ไวรัส โควิด -19 ปลดล็อก นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ กลับมาท่องเที่ยวกันมากขึ้น ผุดไอเดีย “ นารีแดงบาร์ ” ภายใต้แนวคิดบาร์ เกิดจากแรงบันดาลใจที่มีไลฟ์สไตล์ความชื่นชอบ ด้านการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ท่องเที่ยว ตกแต่งสไตล์จีนยุคกลาง เก่าแก่ โทนแดง และนึกถึงหนังจอมยุทธ์ที่มักสั่งเหล้า ได้เห็นความหลากหลายคาเฟ่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงปิ๊งไอเดียลงทุนกับสองหุ้นส่วนนักธุรกิจ  คำว่า นารีแดง Lady in red สะท้อนถึง นารี คือผู้หญิง สีแดง เปรียบสีบ่งบอก ความมั่นใจ ความร้อนแรง ตรงกับที่ทั้งสามหุ้นระดมความคิดกันอยากให้บาร์มีความเป็นผู้หญิง มั่นใจ สนุก ส่วนการตกแต่งร้าน ก็เพื่อให้ลูกค้าได้ถ่ายรูปลงโซเซียลมีเดีย นี่ถือเป็นเป็นการเผยแพร่และบอกต่ออย่างรวดเร็ว ทำให้คาเฟ่แห่งนี้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม

ที่ House of Benedict จะมีโซนชั้นบนและล่าง มีพื้นที่นั่ง และ ร้านอาหารจำนวนมาก มีบริการทั้งอาหาร และเครื่องดื่มต่าง ๆ หลากหลายรวมถึง ” บาร์ ”  ไม่ได้มีเฉพาะแค่กาแฟเท่านั้น แต่ยังมีขนมหวานให้เลือกซื้อได้ตามความสนใจ และจุดไฮไลท์อีกหนึ่งจุด เมื่อเราเดินเข้ามายังใต้สะพาน จะเป็นคาเฟ่และมุมนั่งเหมือนบาร์ตามร้านอาหารต่าง ๆ การตกแต่งภายในร้านกับความอลังการงานสร้างของ House of Benedict ที่มีความสวยงามและตกแต่งได้แบบคุ้มค่ามาก ๆ กับค่าเข้าชม เหมือนกับมาถ่ายสตูดิโอ หรือ ฉากในหนังเรื่องหนึ่งเลย และเป็นอีกหนึ่งที่ ที่ควรกลับมากลับมาซ้ำอีกครั้ง เพราะ ยังมีอีกหลายโซนที่ให้เราตามเก็บภาพสวย ๆ

ภายในมีการตกแต่งสไตล์นอร์ดิก ผสมผสานกับความโมเดิร์น และอินเดี้ยนเบา ๆ สิ่งที่ออกมาสู่สายตาคนที่ไปเยือนนั้นดีความสวยงาม ดีไซน์แปลกใหม่ที่สร้างความน่าจดจำต่อผู้คนที่เข้าชม เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ถูกจับวางไว้ก็สวยงามทุกมุม จนอดใจไม่ไหวที่จะต้องหยิบกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์รัว ๆ เลยที่เดียว

นอกจาก การตกแต่งที่สวยงามน่าจดจำแล้ว อาหารที่จัดเสิร์ฟก็หน้าตาดูดีไม่แพ้กัน ส่วนรสชาติไม่พูดถึงคงไม่ได้ หลายๆ ร้านในนั้นที่เราได้ลองมา รสชาติค่อนข้างถูกปากเลยทีเดียว การบริการดีเยี่ยม พื้นที่ภายในร้าน ดูสะอาดตา บอกได้เลยว่า ใครที่อยากได้คอนเทนต์คอนใจแนะนำที่นี่เลย สถานที่เหมาะกับ การทำคอนเทนต์มากกกก สาว ๆ ที่ชอบถ่ายรูปต้องเลิฟที่นี่สุด ๆ มุมร้านทุกมุมถ่ายได้ไม่ซ้ำกันแน่นอน บรรยากาศภายในเวอร์วังมากกก เหมือนหลุดเข้าไปในเมืองเมืองหนึ่งเลยก็ว่าได้

            โซนทางเข้าจะเป็นที่สำหรับการซื้อตั๋วเข้าชมสถานที่ ค่าตั๋วสำหรับคนไทย 100 บาท ส่วนราคาชาวต่างชาติ จะอยู่ที่ 200 บาท ต่อคน หากเดินเข้ามาจะเจอกับโถงทางเดิน กว้างขวาง บรรยากาศร่มรื่น ด้วยความที่ร้านไม่ได้เป็นแบบ Outdoor จึงทำให้เราสามารถถ่ายรูปและเดินชมได้ทั้งวันโดยไม่ร้อนเลย มีที่นั่งทานอาหารทั้ง ชั้นล่างและ ชั้นบน เพียงพอต่อนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างแน่นอน จุด Cheak Point อีกอย่างในโถงทางเดินคือ จะมีน้องจระเข้ อ้าปากต้อนรับนักท่องเที่ยว และเป็นที่ Signature ของโซนทางเข้าของที่นี่ และเป็นที่ที่ผู้คนนิยมถ่ายภาพลงโซเชียล น้องจระเข้อ้าปากนี้ถือเป็นภาพจำ ทำให้คนที่มาจดจำสถานที่แห่งนี้ได้เลยก็ว่าได้ ด้านล่างนี้จะตกแต่งเป็นแหล่งน้ำ และเรือจำลอง เปรียบเสมือนชายทะเลขนาดย่อม ๆ ถัดไปจะเป็นร้านเครื่องดื่มให้เราเลือกซื้อได้ มีน้ำหลากหลายแบบให้เลือกซื้อตามที่เราชอบได้เลย ใครเป็นสายกาแฟ น้ำหวาน หรือจะสายนั่งบาร์จิบค็อกเทลเบา ๆ ก็มีเช่นกัน

            โซนชั้น2 คือโซน  Merry coco Round กับ Sleeping Mermaid

โซน Merry coco Round จะเป็นแนวหวาน ๆ มีม้าหมุนตัวใหญ่ตั้งอยู่ ธีมเจ้าหญิงเจ้าใจสุด ๆ โซนนี้จะมีร้านขายโดนัท และเครื่องดื่ม ใครที่อยากหาคาเฟ่น่ารัก ๆ สไตล์หวาน ๆ โซนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ

โซน Sleeping Mermaid มาในธีมห้องนอน แนวอบอุ่น มีเตียงตั้งเรียงรายให้เราได้นั่ง นอนพักผ่อนหย่อนใจ

จุดถ่ายรูปชั้นบนจะเป็นแนวคลาสสิก มีบันไดวนที่ดูสวยงามเด่นตา มีร้านขายอาหารตามจุดต่าง ๆ มีทั้งร้านแฮมเบอร์เกอร์ ปลาหมึกย่าง คอร์นด็อก และ ผลไม้ให้เลือกซื้อ

นอกจากนั้น ร้าน House of Benedict ยังมีข้อดีอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น

– บรรยากาศที่แปลกตาไม่เหมือนที่ไหน House of Benedict มีบรรยากาศที่เป็นกันเอง และมีสไตล์ของตัวเองที่ไม่เหมือนใคร ทำให้การมาเยี่ยมชมร้านนี้ กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ

– เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย ไม่เพียงแค่มีเครื่องดื่มที่อร่อยและสดชื่น แต่ยังมีเมนูอาหารหลากหลายแนว ที่มีความอร่อยถูกปากใครหลาย ๆ คน เหมาะสำหรับทุกคนที่มีความสนใจในอาหารและเครื่องดื่ม ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่มีความพิเศษเรื่องดื่มที่แตกต่างถึงขั้นแหวกแนว โดยเฉพาะ ชานมไข่มุกรสชาติกลมกล่อมแบบไต้หวันแท้ ๆ โดยเฉพาะ บาร์เทนเดอร์จาก ออสเตเลีย ซึ่งทำงานอยู่ดับชาวไต้หวัน ครึเอตขึ้นมา มีความละมุน ความอร่อย พร้อมใส่กิมมิกแปะแผ่นทอง ส่วนอีกเมนูที่ได้รับความนิยม คือ ฮานาโกะ เป็นชามิกซ์รสชาติละมุน ท็อปด้วยครีมชีส โรยหน้าดอกไม้กินได้ ทั้งอร่อยและสวย ดูดแล้วปัง กระแสตอบรับดีมาก ๆ

– บริการที่เป็นมืออาชีพ พนักงานในร้าน House of Benedict มีความเป็นมืออาชีพ และให้บริการอย่างดีเยี่ยม ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจต่อสถานที่นี้

– การจัดงานและกิจกรรมพิเศษ House of Benedict บางครั้งยังจัดงานและกิจกรรมพิเศษ เช่น งานแสดงดนตรีสด หรืองานนิทรรศการ ทำให้ลูกค้ามีโอกาสเพลิดเพลินไปกับ ประสบการณ์ที่หลากหลาย มากกว่าคาเฟ่แบบเดิมๆ

            House of Benedict Pattaya เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่น่าสนใจ และควรค่าแก่การไปเที่ยวเปิดประสบการณ์สักครั้งในการเดินทางไปเที่ยวที่พัทยา บาร์บริเวณโซนด้านบนก็เหมาะสำหรับการนั่งดื่มสังสรรค์ เพราะที่นี่เปิดให้บริการถึงเที่ยงคืน!!! มีมุมให้ถ่ายรูปทำคอนเทนต์หลายมุมให้ได้เลือก มุมพักผ่อนก็มีให้เลือกเยอะเช่นกัน เนื่องจาก ภายในคาเฟ่นี้ยังมีร้านมากมายอยู่ข้างในอีกที มีอาหารหลากหลายแนว ทั้งอาหารไทย เกาหลี หรือ แนวอเมกันสไตล์ ส่วนโซน ในร้านก็หลากหลายแบบเช่นกัน ทำให้เราสามารถเลือกได้ว่าอยากไปโซนไหน หรือ อยากกินอาหารแนวไหน ดังนั้นที่ House of Benedict จึงเป็นที่ที่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยจริง ๆ ราคาอาหารอาจจะสูงไป เมื่อเทียบกับปริมาณอาหารที่ได้ แต่ยอมรับเลยว่าบรรยากาศร้านดีจริง ๆ ด้วยความที่พวกเราไปวันธรรมดา คนจึงไม่เยอะเท่าวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ วันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวไปกันเยอะเป็นพิเศษ โดยเฉพาะทัวร์ชาวต่างชาติ และตอนเย็น ๆ คนจะเริ่มน้อยลง แต่บรรยากาศยังคงสวยงามไปอีกแบบ เวลาช่วงกลางคืนที่นี่ก็น่าไปไม่แพ้ช่วงกลางวันเลย

สไตล์การตกแต่งของที่นี่ก็ควรค่าแก่การมาชมมาก ๆ รับรองว่ามาแล้วจะไม่ผิดหวัง คุ้มค่ากับค่าเข้าชมที่เสียไปแน่นอน เพราะ เขาใช้ทุกพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าจริง ๆ ความอลังการงานสร้างของ House of Benedict เปรียบเหมือนสตูดิโอ หรือฉากในหนังเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ ที่นี่จึงเป็นอีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดหากใครแวะเวียนผ่านไปที่พัทยา

พิกัดร้าน House of Benedict Pattaya : ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ ถนนชัยพฤกษ์ ซอย 3 จังหวัดชลบุรี

ค่าเข้าบริการสำหรับคนไทย 100 บาท และชาวต่างชาติ 200 บาท

* เด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 120 cm. สามารถเข้าฟรีได้ *

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00 น. – 24.00 น.

ช่องทางการติดต่อ : 098 642 6151, 096 296 1669

FB : House Of Benedict

IG : house_of_benedict

Line : @houseofbenedict

คลิปรีวิว :https:///www.youtube.com/watch?si=MQD-2s2O1mas6C_7&v=Zp90KgKjg7g&feature=youtu.be&themeRefresh=1