“หากคุณเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยว แต่มีเหตุจำเป็นให้คุณต้องท่องเที่ยวในพื้นที่ ที่อยู่ใกล้เคียงกับสถานที่ที่คุณอยู่ ณ ปัจจุบัน คุณจะท่องเที่ยวที่ไหน”

    หนึ่งในประโยคคำถามสามัญที่เรามักจะถามกับตัวเองเสมอว่าถ้าเราอยู่ที่นี่เราจะเที่ยวที่ไหนดีนะ หรืออาจจะเป็นประโยคคำถามสำหรับนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนเวลาออกไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ

    ณ ตอนนี้พวกเราเป็นนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังสถานที่ท่องเที่ยวที่ใกล้ที่สุดก็คงจะเป็น “ตลาดเก่าหัวตะเข้” ที่สามารถเดินไปได้ด้วยระยะทางที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากมหาลัยมากนัก

    ซึ่งแน่นอนหากเราค้นหาในกูเกิลว่าตลาดเก่าหัวตะเข้เราก็จะเจอบทความมากมายเกี่ยวกับร้านอาหารที่แนะนำหรือร้านวาดภาพชวนจรรโลงใจและร้านต่าง ๆ อีกมากมายที่อยู่ในตลาดเก่าหัวตะเข้ แต่มีร้านนึงที่เราก็ไม่คิดเหมือนกันว่าวันนึงเราจะกลายเป็นลูกค้าประจำนั่นคือร้าน “หอมพริกตำคาเฟ่” ถ้าถามว่ารู้จักร้านนี้ได้ยังไงขอยกให้นักดื่มกาแฟตัวยงเป็นคนบรรยายแล้วกันค่ะ

“เรื่องราวและความประทับใจของนักดื่มกาแฟตัวยง”

    เมื่อแฟนผมชอบดื่มน้ำชา แต่ตัวผมชอบดื่มกาแฟ จนเราก็เจอจุดที่ลงตัวและเข้ากันนั้นคือร้าน “หอมพริกตำ”เอา
จริง ๆ ที่ผมเข้ามาดื่มร้านนี้มันเหมือนมีความวิเศษบางอย่างที่เราบอกไม่ถูกแต่กลับดึงดูดซึ่งนั่นก็ทำให้ต้องแวะเข้าไปดู ด้วยความที่ผมนั้นมาตลาดเก่าหัวตะเข้อยู่บ่อยครั้ง และร้านนี้เป็นร้านที่คนไม่เยอะแต่ตอนที่มาทุกครั้งกลับมีแต่ลูกค้าประจำที่ผมมาทีไรก็จะเห็นอยู่ทุกครั้งที่ผมมาตลาดเก่าหัวตะเข้

    ร้านหอมพริกตำเป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ในตลาดเก่าหัวตะเข้เป็นตลาดที่หลาย ๆ คนอาจจะรู้จัก หรือเรียกว่าเป็นจุดท่องเที่ยวหนึ่งในลาดกระบังก็ว่าได้ ร้านตั้งอยู่ใกล้สะพานปูนที่มีป้ายจระเข้สุดเท่ตัวนึงซึ่งร้านนี้เปิดมาแล้ว 2 ปีเริ่มขายครั้งแรกเมื่อปี 2565 ไฮไลต์ของทางร้านจะเป็นพวกกาแฟเมล็ดพิเศษที่เจ้าของร้านได้คัดสรรมาอย่างดีโดย
ร้านนี้จะใช้เครื่อง Flair 58 ในการทำกาแฟให้ลูกค้าดื่ม ต้องบอกก่อนว่าการทำด้วยเครื่อง Flair 58 นั้นมีการที่ต้องให้ความเอาใจใส่พอสมควร บางวันถ้าความชื้นอุณหภูมิเปลี่ยนไปก็อาจจะทำให้กาแฟสกัดออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร ร้านนี้ไม่ได้มีแค่เมนูกาแฟยังมีเมนูสำหรับคนชอบดื่มชาและคนชอบดื่มนม ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันอาทิตย์ และร้านนี้มีความพิเศษตรงวันเสาร์-อาทิตย์จะเป็นคาเฟ่ที่มีส้มตำขายซึ่งเป็นที่มาของชื่อร้านหอมพริกตำ

    ต้องขอเกริ่นก่อนว่าเสน่ห์ของการทำกาแฟนั้นมีหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น อุณหภูมิของน้ำ การคั่วเมล็ด ชนิดของเมล็ด ล้วนแล้วแต่เป็นเสน่ห์ที่แม้อาจจะใช้เมล็ดเดียวกันแต่เวลาทำออกมานั้นรสชาติกลับไม่เหมือนกันสักรอบ และปัยจัยหนึ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้นั่นก็คือ “บาริสต้า” ซึ่งแน่นอนร้านนี้ก็ยังมีบาริสต้าฝีมือดีและบริการที่ยอดเยี่ยมเขาชื่อ “พี่ชัย” แห่งหอมพริกตำ

“พี่ชัยแห่งหอมพริกตำ”

    แน่นอนเมื่อมีบาริสต้าที่ดีกาแฟย่อมออกมามีคุณภาพในความรู้สึกของผมก็ขอการันตีได้เลยว่าเรื่องเมล็ดของร้านพี่ชัยนั้นได้คัดสรรด้วยใจรักเพราะพี่ชัยเชื่อว่าเมล็ดทุกเมล็ดนั้นมีความพิเศษในตัวของมันเอง นอกจากนั้นเรื่องการบริการของพี่ชัยก็มีเสน่ห์อย่างน่าประหลาดใจถึงแม้พี่ชัยจะคุยไม่ค่อยเก่งแต่พี่ชัยก็จะใส่ใจลูกค้าเป็นอย่างมากแก้วทุกแก้วก่อนนำไปเสิร์ฟพี่ชัยก็จะเขียนข้อความเล็ก ๆ ด้วยลายมือของตัวเอง “หอมพริกตำ cafe :)” ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้เลยนอกจากนี้ยังมีกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ให้ทุกท่านที่ได้มาได้เขียนความรู้สึกลงไปและติดที่หน้าต่างข้าง ๆ กับบาร์ที่ใช้ทำเครื่องดื่มตั้งแต่ตอนที่ผมมาเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วจนถึงตอนนี้กระดาษก็พูนออกมามากกว่าเดิมเยอะเพราะพี่ชัยไม่เคยดึงออกเลยส่วนเรื่องฝีมือนั้นไร้ที่ติเลยทีเดียวสำหรับผมนะ พี่ชัยก็เคยบอกผมนะว่า “จริง ๆ แล้วพี่อะก็ไม่ได้เก่งหรอกบางวันอะยังมีพลาดเลยแต่ถ้าเราพลาดเราก็ทำให้ลูกค้าใหม่ถ้าไม่ทำเนี่ยเราเองแหละที่ไม่สบายใจ” ซึ่งพี่ชัยก็เคยทำพลาดให้ผมดื่มอยู่ครั้งนึงและพี่ชัยก็ทำกาแฟอีกแก้วให้ผมดื่มใหม่จริง ๆ นอกจากการใช้เครื่อง Flair 58 พี่ชัยก็ยังสามารถดริปได้แต่พี่เขาถนัดการดริปเย็น แต่พี่เขาก็จะพูดเสมอว่าพี่อะยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่สำหรับผมมันอร่อยมาก ที่พูดมาทั้งหมดนี้ถ้าถามถึงเรื่องราคาผมโฆษณาเลย คุณจะได้ ดื่มกาแฟที่มีคุณภาพในราคาย่อมเยา

แก้วทุกแก้วก่อนนำไปเสิร์ฟพี่ชัยก็จะเขียนข้อความเล็ก ๆ ด้วยลายมือของตัวเองว่า หอมพริกตำ cafe 🙂

กระดาษแห่งความรู้สึกที่พูนออกมามากว่าเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วเพราะพี่ชัยไม่เคยดึงออกเลย

“ลูกค้าประจำมีทุกช่วงวัยจริง ๆ ”

    ด้วยคอนเซปต์ของร้านที่เป็นร้านเปิดให้นั่งชิวริมน้ำ คุณภาพของเครื่องดื่ม บาริสต้าที่ดีและแน่นอนราคาที่เป็นมิตรจึงทำให้ร้านหอมพริกตำเป็นร้านที่มีลูกค้าประจำมากมายแต่สิ่งที่ผมรู้สึกตื่นเต้นที่สุดคงจะเป็นลูกค้าประจำที่อายุ 10 ขวบ ด้วยความที่พี่ชัยเป็นคนพูดน้อยแต่ถ้าได้ลองคุยกับพี่เขาแล้วก็จะได้รู้จักพี่เขาจริง ๆ แล้ว ตัวพี่เขาไม่ได้เป็นคนนิ่ง ๆ เขาดูเป็นที่นิสัยน่ารักคนนึงเลย ถึงขนาดที่ว่าแฟนผมปกติจะไม่ชอบนั่งร้านชิว ชอบผจญภัย สามารถนั่งนิ่งฟังผมคุยกับพี่ชัยได้เป็นชั่วโมงเลย “แค่นั่งดื่มกาแฟแก้วเดียวใช้เวลาเป็นชั่วโมงคุยกัน เรื่องสัพเพเหระต่าง ๆ นานา” แต่พี่ชัยไม่ได้ชอบการที่จะเป็นคนดังอะไรมาก เพียงแค่อยากให้ทุกคนได้ดื่มกาแฟมานั่งเอนจอยกัน อยากให้คนที่แวะตลาดเก่าหัวตะเข้เที่ยวแล้วมีความสุขแล้วกลับมาร้านหอมพริกตำอีกครั้ง

“ประโยคคำถามสามัญที่ได้รับคำตอบ”

  ย้อนกลับไปในประโยคคำถามสามัญที่เรามักจะถามกับตัวเองเสมอว่าถ้าเราอยู่ที่นี่เราจะเที่ยวที่ไหนดีนะถึงตอนนี้แล้วก็คงขอตอบว่าถ้าได้ไปตลาดเก่าหัวตะเข้อีกกี่รอบเราก็จะไปหอมพริกตำคาเฟ่ทุกรอบและอีกตลอดไป
เพราะมันมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ลงตัวกันไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศของทางร้านที่มีความสบายนั่งห้อยขาริมน้ำปล่อยตัวปล่อยใจไปกับธรรมชาติ เครื่องดื่มที่ทำให้ใจผ่อนคลาย อาหารที่ใส่ความตั้งใจลงไปทำให้อร่อยเหมือนทานอาหารจากครอบครัวและการบริการจากทางร้านที่น่าประทับใจไร้ที่ติสิ่งเหล่านี้ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้สมบูรณ์
บางทีก็มีผิดพลาดบ้างแต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นเสน่ห์ที่ทำให้มีความสุขทุกครั้งเวลาที่ได้ไป ส่วนตัวเราเองก็ไม่เคยคิดว่าจะสามารถนั่งนิ่งเป็นชั่วโมงเพื่อนั่งฟังบทสนทนาระหว่างนักดื่มกาแฟตัวยงกับพี่ชัยแห่งร้านหอมพริกตำคุยกันเรื่องกาแฟได้มีความสุขและความสนุกขนาดนี้ เหมือนกับว่าความเหนื่อยล้าที่สะสมจากการทำงานของเรามาทั้งหมดมันได้หายวับไปกับตาเมื่อเราได้ก้าวขาเข้าร้านนี้มันเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ไร้ซึ่งเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้อง
ได้พูดคุยในเรื่องสารทุกข์สุกดิบเรื่องของตัวเอง เรื่องของทางร้านและเรื่องอื่น ๆ มากมาย มันทำให้เรารู้สึกว่า
มีความผูกพันกับร้านหอมพริกตำเลยก็ว่าได้ ราวกับว่าเมื่อมีใครพูดว่าไปตลาดเก่าหัวตะเข้กันเราจะตอบอัตโนมัติในทันทีว่า “เคยไปร้านหอมพริกตำคาเฟ่รึยังลองไปดูสิ” เรามักชอบพูดกับพี่ชัยเสมอว่าถ้ามีงานเกี่ยวกับการแนะนำคาเฟ่ไม่ว่าจะเป็นงานบทความหรืองานถ่ายภาพเราจะแนะนำร้านหอมพริกตำเป็นร้านแรกเลยซึ่งแน่นอนงานนี้ก็เป็นงานเขียนบทความแรกของเรา นี่แหละความพิเศษที่ไม่เหมือนใครของร้านนี้ราวกับว่ามีมนตร์สะกด
ไม่ว่าจะไปเมื่อใดจิตใจก็จะมีความสุข