ตะลุยกินย่านวังหลัง อร่อยเด็ด สุดฟิน 2024

ไปตะลุยกินกัน!! ขึ้นชื่อว่าวังหลังเชื่อเลยว่าหลายคนก็น่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรื่องของกินของตลาดนัดวังหลังกันผ่าน ๆ มาบ้างอยู่แล้วว่าเป็นแหล่งของกินอร่อยให้ได้ซื้อกลับบ้านกันเยอะเเยะเต็มไปหมด หรือจะเป็นร้านแบบนั่งกินที่ร้านก็ได้นะ วันนี้จะมาอัปเดตของกินในตลาดนัดวังหลังกับ 6 ร้านดังร้านเด็ดที่เราลิสต์มาให้แล้วว่าไม่ควรพลาด บอกเลยว่าครบจบทั้งคาวและหวานเป็น 6 ร้านที่ผ่านไปกี่ปีก็ยังเป็นที่นิยมตลอด เเถมราคาเป็นมิตรสบายกระเป๋าอีกด้วย ไปดูกันเลยว่ามีร้านไหนบ้าง

ร้านที่ 1 สมหญิง ลูกชิ้นปลากราย

เป็นอีกหนึ่งตำนานของวังหลัง! ร้านในตำนานที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ต้องมีคนพูดถึง กับร้านลูกชิ้นปลาทอดเจ้าเก่า ลูกใหญ่ เหนียวนุ่ม ราดกับน้ำจิ้มสามรสที่เป็นสูตรของทางร้าน หวาน เผ็ด อร่อยเด็ดอย่าบอกใคร (คนที่ไม่ทานเผ็ดก็สามารถทานได้นะรสชาติเข้มข้นแต่ไม่ได้มีความเผ็ดขนาดนั้น) ทางร้านทอดใหม่ร้อน ๆ ตัดขนาดพอดีคำใส่ถุงให้ในตอนนั้นเลย เคี้ยวอร่อยเต็มปากเต็มคำรับประกันความฟินไม่มีผิดหวังแน่นอน รีวิวโดยคนที่กลับไปซื้อซ้ำถึง 2 รอบ!! ก็มันอร่อยขนาดนี้เป็นใครใครจะอดใจไหว ราคาเริ่มต้นชุดเล็กอยู่ที่ 30 บาทเท่านั้น! ต้องบอกเลยว่าของที่อร่อยและถูกขนาดนี้เป็นของคุณนะ ถ้ามาวังหลังอย่าลืมแวะชิมกันนะคะ หรือใครที่มาถึงวังหลังทั้งทีแต่ไม่รู้จะกินอะไรก็ขอแนะนำ สมหญิง ลูกชิ้นปลากรายเป็นเมนูทานเล่นรองท้องไปก่อนจะได้มีแรงในการเดินตามหาร้านอร่อย ร้านดัง ร้านอื่น ๆ ต่อไป

ร้านที่ 2 ขนมจีบป้าอ้วน

ขนมจีบต้มป้าอ้วน เจ้าดังวังหลัง เป็นอีกร้านหนึ่งสำหรับคนที่มาวังหลังห้ามพลาด ขนมจีบต้มที่ทุกคนตามหา แป้งนุ่มลูกใหญ่ ไส้แน่น ราคาเริ่มต้นที่ 55-105 บาท ส่วนตัวขนมจีบ ไส้หมู เนื้อหมูจะมีลักษณะที่เด้งนุ่ม ไม่แห้ง ไม่แข็ง ชุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นเครื่องเทศ แป้งขนมจีบนุ่มไม่แห้งแข็ง ต้มกำลังดี ทาเคลือบด้วยน้ำมันกระเทียมเจียววาววับ ส่วนไส้กุ้ง ป้าอ้วนให้กุ้งตัวใหญ่ 1 ตัวเต็ม ๆ สำหรับขนมจีบ 1 ลูกแบบจุก ๆ เรียกได้ว่าเต็มปากเต็มคำ กัดส่วนไหนก็เจอเนื้อกุ้งแน่น ๆ ได้ใช่วิญญาณกุ้งหรือเนื้อกุ้งผสมเนื้อหมูแบบที่เราเคยกินกันมา แป้งแบบเดียวกันกับไส้หมู ส่วนน้ำจิ้มขนมจีบต้ม หวานกำลังพอดี ไม่เค็มจนเกินไป หอมกลิ่นซีอิ๊ว พอทานคู่กับขนมจีบแล้วอร่อยมาก ถ้ายิ่งโรยกระเทียมเจียวจะยิ่งอร่อยมากขึ้น โดยรวมคือทุกอย่างอร่อย กินรวมกันแล้วพอดี และป้าอ้วนยังมีกุยช่ายขายอีกด้วย มีไส้ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไส้กุยช่าย ไส้เผือก ไส้ข้าวโพด และอีกมากมาย ราคาเพียงกล่องละ 45 บาทเท่านั้น ร้านจีบต้มป้าอ้วนจะตั้งอยู่ในซอย เดินเข้าไปไม่ไกลมากก็ถึงร้านแล้ว เป็นร้านตั้งแผงเล็ก ๆ ไม่มีที่นั่งสำหรับทานที่ร้าน สำหรับใครที่ชอบทานขนมจีบเราแนะนำจีบต้มป้าอ้วน เจ้าดังวังหลัง และที่ห้ามพลาดคือขนมจีบต้มไส้กุ้ง แล้วจะทำให้คุณลืมขนมจีบที่คุณเคยกินมาอีกต่อไป!!!

ร้านที่ 3 อรทัย ซูชิ

อรทัย ซูชิวังหลัง อาหารญี่ปุ่นราคาเป็นมิตร ร้านซูชิ 5 บาท ที่เป็นตำนานย่านวังหลัง เป็นอีกร้านที่มีชื่อเสียงเลื่องลือมานาน มีซูชิมากกว่า 40 หน้า ทำให้ร้านดูน่าสนใจมากขึ้น มีเมนูให้เลือกมากมายและการตกแต่งร้านมีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น เป็นซูชิที่ทำสดใหม่ทุกวัน ราคาเริ่มต้นที่ 5 บาทไปจนถึง 20 บาทต่อคำ โดยรวมนับว่าเป็นเป็นร้านที่ดีและตอบโจทย์คนที่ชอบกินซูชิในราคาย่อมเยา อรทัย ซูชิวังหลังไม่ได้มีดีแค่ซูชิด้านเดียว นอกจากซูซิเเล้วยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ อย่างทาโกะยากิ เเซลมอนซาชิมิ จะทานที่ร้านหรือสั่งกลับไปทานที่บ้านก็ได้ ใครเเวะไปเเถววังหลังอย่าลืมไปลองกันนะคะ  พิกัด: อรทัย ซูชิวังหลัง เวลา: 09:30-18:00 น. (เปิดทุกวัน)

ร้านที่ 4 อำนวย ไอศกรีม เฮ้าส์

อากาศร้อน ๆ แบบนี้จะมีอะไรดีไปกว่าการได้กินไอศกรีมเย็น ๆ ของหวานอร่อย ๆ ใครที่ไปวังหลังบอกเลยว่าไม่ควรพลาดที่จะแวะไปร้านอำนวยไอศกรีมซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ที่อยู่คู่วังหลังมานานกว่า 27 ปี และที่นี่ยังมีเมนูให้เลือกมากมาย เช่น ไอศกรีมซันเดย์หลากหลายรสชาติ บิงซู ครัวซองโทสต์  และทีเด็ดที่ห้ามพลาดคือ “ วิปครีม ” เนื้อแน่นฟู หวาน หอมละมุน ตั้งแต่คำแรกที่สัมผัส ซึ่งวิปครีมที่นี่เป็นสูตรของทางร้านที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานความอร่อยที่ไม่มีใครเหมือน ราคาวิปครีมเริ่มต้นที่ช็อตละ 25 บาท และไอศกรีมอื่น ๆ ราคาเริ่มต้นที่ 55 บาท อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนรสชาติไอศกรีมได้ตามที่ต้องการ ราคาสบายกระเป๋าและทางร้านยังมีที่นั่งแถมแอร์เย็นฉ่ำลุกนั่งสบายสุด ๆ บอกเลยว่าถูกใจสายหวาน หากใครอยากลองมาลิ้มรสความอร่อยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตำนานที่เล่าสู่กันปากต่อปาก ห้ามพลาด!!

ร้านที่ 5 เจปัง สาขาวังหลัง

เจปัง สาขาวังหลัง ซอยวังหลัง 1 ทางเดินไปวัดระฆัง เปิด 11.00-19.00 น. ร้านเจปังนะคะ จุดสังเกตเลยคือร้านตกแต่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่นร้านไม้ป้ายร้านเป็นผ้าสีแดงน่ารักสุด ๆ โดยเจปังคือร้านขนมปังอบเนยที่มาพร้อมกับไอศกรีมโฮมเมดสูตรเฉพาะของทางร้าน ขนมปังทาเนยสดอบร้อน ๆ โปะด้วยไอศกรีมรสชาติเข้มข้น แค่คิดตามก็ฟินแล้ว โดยไอศกรีมของทางร้านมีให้เลือกหลายรสชาติ หากไม่รู้จะลองทานรสชาติใด ทางเราขอเสนอเมนูเด็ดที่คิดว่าพลาดไม่ได้เลย คือ ขนมปังชาโคลโปะด้วยไอศกรีมรสชาเขียว รสชาติไอศกรีมรสชาเขียวเข้มข้นทานคู่กับขนมปังชาโคลที่หอมเนยเข้ากั๊น เข้ากัน เมนูที่สองที่ไม่ควรพลาดเลยคือ ขนมปังเนยสดโปะด้วยไอศกรีมรสนมสด หอมนม ฉ่ำเนย สุด ๆ และอย่างสุดท้าย ไอศกรีมรสชาไทย ชาไทยเข้มข้นสุด ๆ หอมกลิ่นชาไทย หวานกลมกล่อมละมุนลิ้น โดยราคาเริ่มต้นที่ 69 บาทเท่านั้น

ร้านที่ 6 วังหลังเบเกอรี่

มาวังหลังทั้งที จะไม่พูดถึงร้านนี้เลยก็คงจะไม่ได้ ร้านขนมปังเจ้าอร่อยต้นตำรับของวังหลัง “ วังหลัง เบเกอรี่ ” ขนมปังไส้ทะลัก อบสดใหม่ทุกวัน เปิดมานานแล้วถึง 40 ปี อยู่ภายในตลาดวังหลังถัดจากร้านอรทัยซูชิ รสชาติของขนมปังอุ่นร้อน ๆ จากเตากับไส้ขนมปังที่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งไส้ลูกเกด ไส้กรอก เบคอน เนยสด หมูหยอง กระเทียมเนยสดกะหรี่ไก่ สังขยาใบเตยและอื่น ๆ อีกมากมาย ตัวขนมปังจะมีความหอมนุ่มบวกกับไส้ที่กลมกล่อมไม่หวานไม่เลี่ยนจนเกินไป ทำให้ได้รสชาติที่ลงตัวมาก ๆ ในราคา 50-60 บาท สามารถซื้อได้ที่วังหลังเบเกอรี่ (สาขาท่าศิริราช) เปิดทุกวันเวลา 08:00-19:00 น.สำหรับใครที่ซื้อกลับบ้าน ขนมปังอยู่ข้างนอกได้ประมาณ 1-2 วันและถ้าแช่ในตู้เย็นก็จะอยู่ได้ถึงสัปดาห์ ก่อนทานแนะนำให้เอาไปเวฟด้วยไฟอ่อนสัก 30 วินาที ก็จะได้ขนมปังร้อน ๆ เหมือนเพิ่งซื้อมาจากหน้าร้านเลย

การเดินทางไปวังหลัง

พวกเราเริ่มต้นที่สถานีรถไฟพระจอมเกล้า ปลายทางคือสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ค่าโดยสาร 6 บาท จากนั้นให้เดินมารอรถเมล์สาย 4-13 (สายเดิม 75) มาลงที่ BTS สะพานตากสิน ค่าโดยสาร 20 บาท มาถึง BTS สะพานตากสินแล้วจะเจอป้ายเขียนว่า สำนักงานอัยการสูงสุดอาคารกรุงเทพใต้ ให้เดินตรงไปเรื่อย ๆ เพื่อข้ามถนนไปอีกฝั่งตรงป้ายจราจรข้างหน้า เมื่อข้ามมาแล้วเดินตรงไปเลี้ยวซ้ายจะเจอป้ายติดไว้ว่าไปท่าเรือสาทร ขึ้นเรือแอร์ไปลงวังหลัง ค่าโดยสาร 30 บาทหรือจะขึ้นเรือธรรมดาในราคา 16 บาทก็ได้นะ